สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ 31 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกัน สินค้าจากสหภาพยุโรปจะต้องเสียภาษี 20% และจากสหราชอาณาจักร 10%
ประธานาธิบดีสวิส คาริน เคลเลอร์-ซัตเตอร์ ภาพ: X/keller_sutter
บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก X ประธานาธิบดีคาริน เคลเลอร์-ซัตเตอร์ของสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่ารัฐบาลได้ทราบถึงการตัดสินใจของสหรัฐฯ แล้ว และจะพิจารณาขั้นตอนต่อไปโดยเร็วที่สุด
“ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาวของประเทศถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและการค้าเสรียังคงเป็นค่านิยมหลัก” นางเคลเลอร์-ซัตเตอร์ยืนยัน
ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่เป็นอันดับ 6 ของสหรัฐฯ แม้ว่าสวิตเซอร์แลนด์จะยกเลิกภาษีอุตสาหกรรมแล้ว แต่ภาคการเกษตรซึ่งมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของเศรษฐกิจกลับได้รับการอุดหนุนอย่างหนัก แต่กลับเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญในการเรียกร้องของสหรัฐฯ เพื่อเปิดตลาด
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของสวิส กาย ปาร์เมลิน เน้นย้ำถึงการสนับสนุนของสวิสต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีจากรัฐบาลทรัมป์ เขาสังเกตว่าสวิตเซอร์แลนด์ได้ยกเลิกภาษีอุตสาหกรรม ทำให้สินค้าของสหรัฐฯ เกือบ 99% สามารถเข้าสู่สวิตเซอร์แลนด์ได้โดยไม่ต้องเสียภาษี และบริษัทของสวิสยังจ้างคนงานค่าจ้างสูงประมาณ 400,000 คนในสหรัฐฯ อีกด้วย
การเคลื่อนไหวทางภาษีของสหรัฐฯ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากผู้นำโลก นายกรัฐมนตรีแคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ ให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องแรงงานชาวแคนาดา ในขณะที่บราซิลประณามการดำเนินการดังกล่าวและพิจารณายื่นอุทธรณ์ต่อองค์การการค้าโลก (WTO)
นายแอนโธนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า ภาษีศุลกากรดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไร้เหตุผล และส่งผลเสียต่อเสถียรภาพระดับโลก ผู้นำจากนิวซีแลนด์ สเปน สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการค้าเสรีและความร่วมมือระหว่างประเทศอีกด้วย
กาวฟอง (ตามรายงานของ CNN, Reuters)
ที่มา: https://www.congluan.vn/thuy-si-noi-ve-luat-phap-quoc-te-sau-khi-bi-my-ap-thue-cao-post341235.html
การแสดงความคิดเห็น (0)