เหล่านี้เป็นพื้นที่ท้องถิ่นที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซอนซึ่งการทำฟาร์มเลี้ยงปลาคาร์ปได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของผู้คนมาหลายชั่วรุ่นแล้ว

ริมฝั่งแม่น้ำใต้เพิงพักชั่วคราว ชาวนานำปลาตะเพียนที่ดูแลอย่างดีมาเลี้ยง ปลาแต่ละตัวเป็นผลมาจากการเลี้ยงดูเป็นเวลานานหลายเดือนในสภาพแวดล้อมน้ำสะอาดอันเป็นเอกลักษณ์ของแม่น้ำซอน คณะกรรมการจำนวน 5 ท่าน ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากภาคการเกษตร สัตวแพทย์ การท่องเที่ยว และสมาคมเกษตรกร ให้คะแนนโดยใช้เกณฑ์ด้านน้ำหนัก รูปร่าง สุขภาพ ความสมดุล และความงามตามธรรมชาติ
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ตกเป็นของทีม Xuan Tien ด้วยปลาตะเพียนน้ำหนัก 11.2 กก. ลำตัวที่ยาวเพรียว สีเงินธรรมชาติ ครีบและหางที่เรียบลื่น ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้กับกรรมการเท่านั้น แต่ยังสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอีกด้วย นี่ไม่เพียงเป็นการแข่งขันเทคนิคการเลี้ยงปศุสัตว์เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการเชิดชูความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและแม่น้ำ ระหว่างแรงงานและความสวยงามอีกด้วย

นายทราน วัน วินห์ หัวหน้าสมาคมเกษตรกร Tram Me กล่าวว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจที่การเลี้ยงปลาตะเพียนไม่เพียงแต่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นความงดงามทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Phong Nha อีกด้วย โดยการประกวดในวันนี้จะยกย่องความงามของปลาตะเพียนแม่น้ำ Son อย่างแท้จริง เสมือนราชินีแห่งความงามตัวจริง”
นายเหงียน ง็อก อันห์ รองประธานสมาคมเกษตรกรเมืองฟองญา กล่าวว่า “การเลี้ยงปลาคาร์ปในแม่น้ำซอนช่วยเพิ่มรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจให้กับคนในท้องถิ่น เราหวังว่าจะสามารถเลียนแบบรูปแบบการเลี้ยงปลาที่มีประสิทธิผลและยั่งยืนต่อไปได้ผ่านการแข่งขันครั้งนี้”

ตามที่คณะกรรมการจัดงานกล่าวไว้ การแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาได้แสดงทักษะและประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแบรนด์ปลาตะเพียน Phong Nha ให้เป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ในอนาคตคาดว่าจะยังคงส่งเสริมการผสมผสานระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ การอนุรักษ์ประเพณี และการส่งเสริมการท่องเที่ยวบนผืนแผ่นดินที่ผู้คนและธรรมชาติสร้างคุณค่าร่วมกัน
การแข่งขันสิ้นสุดลงด้วยพิธีมอบรางวัล แต่เสียงสะท้อนยังคงอยู่ตลอดแนวแม่น้ำซอน ปลาตะเพียนไม่เพียงแต่ถูกประเมินจากน้ำหนักหรือรูปร่างเท่านั้น แต่ยังถูกประเมินจากเรื่องราวของการทำงานอย่างเงียบๆ อดทน และความภาคภูมิใจของผู้คนที่ผูกพันชีวิตไว้กับแม่น้ำซอนอีกด้วย
ที่มา: https://www.sggp.org.vn/quang-binh-hoi-thi-ton-vinh-ca-tram-song-son-post793172.html
การแสดงความคิดเห็น (0)