หางหมูอาจไม่ใช่เมนูยอดนิยมบนโต๊ะอาหารของทุกครอบครัว แต่เป็นส่วนผสมที่สามารถนำมาแปรรูปเป็นเมนูอร่อยๆ ได้มากมาย ช่วยป้องกันและรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อคุณกินหางหมู คุณจะได้ลิ้มรสแก่นแท้ของกระดูก ไขกระดูก เอ็น และผิวหนัง ตามตำราแพทย์แผนตะวันออก หางและกระดูกสันหลังของหมูมีรสหวาน เค็ม และเย็น
ส่วนต่างๆ เหล่านี้ช่วยบำรุงแก่นของไต บำรุงสมองและไขกระดูก บำรุงหยิน เสริมสร้างม้ามและกระเพาะอาหาร เสริมสร้างกระดูกสันหลังและเอว และในเวลาเดียวกันก็ช่วยเสริมการทำงานของผิวหนัง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและหลอดเลือด
ตาม หลักวิทยาศาสตร์ หางหมูมีโปรตีน 26.4% ไขมัน 22.7% น้ำตาล 4% และแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น Ca, P, Fe...
การวิจัยสมัยใหม่ยังแสดงให้เห็นว่าคอลลาเจนมีคุณสมบัติต่อต้านวัยและทำให้ผิวสวยงามอีกด้วย
นอกจากนี้ อาหารที่ทำจากหางหมูยังมีสรรพคุณในการเติมพลังชี่ บำรุงเลือด แก้ไตวาย หย่อนสมรรถภาพทางเพศ หลั่งเร็ว และอื่นๆ อีกมากมาย
4 เมนูยาจากหางหมู
ภาพประกอบ
หางหมูตุ๋นถั่วดำ: หางหมูประมาณ 250 กรัม, ถั่วชิสตันเช เดร์ดิโคลา 30 กรัม, ถั่วดำ 15 กรัม, พุทราแดง 3 ลูก ตุ๋นจนนิ่ม ซุปนี้มีฤทธิ์บำรุงไต บำรุงหยาง บำรุงลำไส้ และเหมาะสำหรับผู้ที่ไตบกพร่อง หย่อนสมรรถภาพทางเพศ และท้องผูก อาการต่างๆ ได้แก่ หลังและเข่าอ่อนแรง หย่อนสมรรถภาพทางเพศ ความต้องการทางเพศลดลง หลั่งเร็ว อสุจิไหล ปัสสาวะบ่อย และท้องผูก
หางหมูผสมเปลือกส้มแมนดาริน: หางหมู 100 กรัม, เปลือกส้มแมนดาริน 1 ชิ้น, เมล็ดพีชปอกเปลือก 10 เมล็ด, ถั่วลิสง 10 เม็ด, เกลือ, ใส่ลงในหม้อ เคี่ยวจนนิ่ม รับประทานร้อนๆ สรรพคุณ: บำรุงม้าม บำรุงไต และบำรุงหัวใจ บรรเทาอาการปวดหลัง ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลีย หูอื้อ วิงเวียนศีรษะ ถ่ายเหลวตอนกลางคืน ภาวะมีบุตรยากในสตรี และปวดท้อง
หางหมูกับใบเตยหอมดิบ: หางหมู 150 กรัม, ใบเตยหอมดิบ 30 กรัม, ขิง 10 กรัม, ต้นหอม 20 กรัม, เครื่องเทศพอประมาณ เคี่ยวจนนิ่ม ใส่ต้นหอมตอนรับประทาน รับประทานวันละครั้งพร้อมอาหาร สรรพคุณ: บำรุงหยิน บำรุงเลือด ขับความร้อน และขับสารพิษ
หางหมูตุ๋นสมุนไพรจีน: ส่วนประกอบประกอบด้วยหางหมูตุ๋นกับเมล็ดยี่หร่า เมล็ดยอ ใบเตย เมล็ดอังเกลิกา เมล็ดบัว และเมล็ดข้าวบาร์เลย์ สรรพคุณ: บำรุงร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการปวดหลังและปวดกระดูกสันหลัง
ใครไม่ควรทานหางหมู?
แม้ว่านี่จะเป็นเมนูที่อร่อย แต่หลายๆ คนก็ชื่นชอบ แต่คุณควรทานหางหมูเพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น อย่าทานมากเกินไป
เกือบทุกคนสามารถกินหางหมูได้ ยกเว้นผู้ที่มีความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคอ้วน ซึ่งควรกินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากไขมันในหางหมูมีคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งอาจทำให้โรคแย่ลงได้
หากใช้หางหมูรักษาโรค ยาจะออกฤทธิ์ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ดังนั้น อย่าใช้ยาเหล่านี้ในทางที่ผิด แต่ควรปฏิบัติตามขนาดยาของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ที่มา: https://www.baogiaothong.vn/phan-thit-lon-nay-rat-ngon-va-bo-duong-nhung-khong-phai-ai-an-cung-tot-19224092413180514.htm
การแสดงความคิดเห็น (0)