“ตอนแรกเสียบปลั๊กก็ยังชาร์จอยู่ แต่พอใช้ไปไม่กี่ครั้ง แบตเตอรี่ก็หมดเกลี้ยง ชาร์จนานมากแต่โทรศัพท์ก็ยังไม่เต็ม ที่ชาร์จร้อนมาก ถือแล้วรู้สึกกลัว ความจุจริงน่าจะแค่ 1 ใน 10 ของความจุที่โฆษณาไว้” กวางมินห์ ( ฮานอย ) เล่าให้ฟังหลังจากซื้อที่ชาร์จสำรองออนไลน์ในราคา 63,000 ดอง
ท่ามกลางความต้องการอุปกรณ์พกพาที่เพิ่มสูงขึ้น เครื่องชาร์จสำรองจึงกลายเป็นสินค้าที่หลายคนคุ้นเคย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ในตลาดปัจจุบัน นอกจากสินค้าของแท้จากแบรนด์ดังแล้ว ยังมีเครื่องชาร์จราคาประหยัดที่น่าประหลาดใจอีกหลายรุ่นที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคจำนวนมาก

จากการสำรวจโดย นักข่าว Science and Life/หนังสือพิมพ์ Knowledge and Life พบว่าพาวเวอร์แบงค์จากแบรนด์ต่างๆ เช่น Anker, Xiaomi, Energizer, Samsung... มีราคาตั้งแต่ 400,000 ดองไปจนถึงกว่า 1 ล้านดอง ขึ้นอยู่กับความจุและคุณสมบัติ อย่างไรก็ตาม ร้านค้าออนไลน์หลายแห่งเต็มไปด้วยสินค้าที่โฆษณาว่าความจุ "มหาศาล" อยู่ที่ 20,000 - 30,000 mAh แต่ราคากลับอยู่ที่เพียง 50,000 - 70,000 ดอง ทำให้ลูกค้าสับสนเกี่ยวกับคุณภาพที่แท้จริง
คุณหลาน เฮือง (ถั่น ซวน, ฮานอย) เล่าว่าด้วยความอยากรู้ เธอจึงสั่งซื้อที่ชาร์จสำรองราคา 63,000 ดอง “ตอนที่ฉันได้รับสินค้า ที่ชาร์จมีน้ำหนักเบามาก มีเปลือกพลาสติกบางๆ พอลองชาร์จดู โทรศัพท์ก็ชาร์จช้า พอใช้ไปได้สองสามวันก็เกิดอาการพองและร้อนผิดปกติ ฉันเลยไม่กล้าใช้ต่อ” เธอกล่าว
คุณตวน มินห์ เจ้าของร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของแท้ในฮานอย ระบุว่า การผลิตแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุจริง 10,000 mAh ขึ้นไปนั้น ต้นทุนของส่วนประกอบและวงจรป้องกันต้องไม่ต่ำกว่า 150,000 ดอง “แบตเตอรี่ที่มีราคาเพียงไม่กี่หมื่นดองแทบจะไม่ได้มาตรฐานทางไฟฟ้าและกลไกใดๆ เลย หากใช้งานเป็นเวลานาน ความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ หรือแม้แต่แบตเตอรี่ระเบิดจะสูงมาก” คุณมินห์เตือน
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้บริโภคควรพิจารณาอย่างรอบคอบเมื่อเลือกซื้อเครื่องชาร์จสำรอง อย่าเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มา เพราะนอกจากจะพังเร็วแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนใหม่หลายครั้งยังแพงกว่าการลงทุนซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและมีการรับประกันเต็มรูปแบบเสียอีก
ที่มา: https://khoahocdoisong.vn/sac-du-phong-gia-re-63000-dong-loi-it-hai-nhieu-post2149047260.html
การแสดงความคิดเห็น (0)