ศิลปินทั้งสองยืนคู่กันบนรถแห่ที่ประดับด้วยธงหลากสีและดอกไม้ ร้องเพลงกันเสียงดังกลางถนนเล่อตวน โดยแสดงการผสมผสานเพลงอมตะ 2 เพลง ได้แก่ "The Country Full of Joy" และ "The Color of Red Flowers"
สำหรับศิลปินแห่งชาติ Quoc Hung ช่วงเวลานั้นไม่เพียงแต่เป็นจุดสูงสุดของอารมณ์ในอาชีพศิลปินของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์อันชัดเจนของบทเพลงแห่งความสามัคคีอันยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนามในวันเทศกาลแห่งชาติอีกด้วย
“มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษมาก ในสถานที่และช่วงเวลาที่พิเศษมาก” เขากล่าว

การผสมผสานเสียงสองเสียงจากภาคใต้และภาคเหนือ ทำให้การแสดงนี้เกิดเสียงสะท้อนที่แข็งแกร่ง ไม่เพียงแต่ในแง่ของดนตรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อความเรื่องความสามัคคีและความกลมเกลียวของชาติด้วย
2 เสียงคือ 2 ภูมิภาคของประเทศที่มาบรรจบกันในบทเพลงแห่งสันติภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่บทเพลงจะอุดมไปด้วยเนื้อหาทางศิลปะเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ทางประวัติศาสตร์อีกด้วย ทั้งสองร้องเพลงประสานเสียงให้กันและกัน เมื่อ Ta Minh Tam ร้องโน้ตสูง Quoc Hung จะประสานเสียงในช่วงเสียงต่ำและในทางกลับกัน ทำให้เพลงฟังดูเต็มอิ่ม เข้มข้น และน่าประทับใจมากขึ้น
“สำหรับฉัน ดนตรีในสมัยนั้นไม่ใช่แค่เนื้อเพลงเดี่ยวๆ อีกต่อไป แต่เป็นเสียงประสานของชาวเวียดนามหลายล้านคนในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการเฉลิมฉลองวันชาติแห่งการรวมชาติ” Quoc Hung กล่าว
สำหรับศิลปินของประชาชน Quoc Hung การร้องเพลงในงานสำคัญของชาติถือเป็นความรับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์เสมอ แต่การเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของการรวมชาติมีความหมายพิเศษและลึกซึ้ง เบื้องหลังท่วงทำนองอันกล้าหาญนี้ เขายังได้ส่งความทรงจำส่วนตัวบางส่วนเกี่ยวกับพ่อของเขา ซึ่งเป็นทหารปฏิวัติที่แนวรบเคซันห์ กวางตรี ซึ่งกลับมาพร้อมบาดแผลมากมาย และเสียชีวิตเมื่อเขามีอายุเพียง 13 ปี
“ฉันเลือกที่จะร้องเพลงปฏิวัติเพื่อแสดงความรักต่อพ่อแม่ของฉัน ซึ่งได้เสียสละอย่างเงียบๆ เพื่อให้คนรุ่นของเราได้มีชีวิตอยู่อย่างสันติในปัจจุบัน” Quoc Hung ศิลปินของประชาชนกล่าว

ในฐานะนักร้องที่คุ้นเคยในวันหยุดสำคัญๆ เช่น วันที่ 30 เมษายน 19 พฤษภาคม 2 กันยายน เป็นต้น Quoc Hung ศิลปินแห่งชาติถือว่านี่เป็นสิทธิพิเศษ: "ไม่ใช่ทุกคนที่มีโอกาสได้ขึ้นเวทีในรายการดนตรีหลักของประเทศ นั่นต้องใช้เสียงที่ฝึกฝนมาอย่างจริงจัง จิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง และความรักชาติที่ลึกซึ้ง"
ที่มา: https://www.sggp.org.vn/nsnd-quoc-hung-hat-trong-dai-le-30-4-la-dac-biet-nhat-trong-doi-nghe-si-post793327.html
การแสดงความคิดเห็น (0)