พรรคฝ่ายค้านสองพรรคที่โดดเด่นที่สุดของไทย คือ พรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ตกลงที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสม หลังจากเอาชนะพรรคที่กองทัพให้การสนับสนุนในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งพรรคก้าวหน้าและพรรคเพื่อไทยต่างก็ได้รับคะแนนเสียงที่ต้องการจากพรรคที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพไทย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านของไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในการแสวงหาการสนับสนุนจากพรรคอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ภาพ : รอยเตอร์)
พรรคฝ่ายค้านของไทยจำเป็นต้องรักษาที่นั่งให้เพียงพอเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ มิฉะนั้นจะถูกปิดกั้นโดยวุฒิสภาที่แต่งตั้งโดยกองทัพ
สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของไทย (ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน และสมาชิกวุฒิสภา 250 คน) สองสภาจะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในการประชุมร่วมกันในเดือนกรกฎาคมปีหน้า แต่วุฒิสภามีความลำเอียงเข้าข้างฝ่ายอนุรักษ์นิยมและพรรคการเมืองที่กองทัพให้การสนับสนุน
ในคำประกาศชัยชนะเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคฟอร์เวิร์ด เสนอให้จัดตั้งรัฐบาลผสมซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมือง 6 พรรคที่ครองที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้ 309 ที่นั่ง โดยมีพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังขาดอีกกว่า 60 ที่นั่ง จากทั้งหมด 376 ที่นั่ง ที่จำเป็นต่อการทำให้ นายลิ้มเจริญรัฐ ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามถึงแรงกดดันจากวุฒิสภา เขากล่าวว่าทุกพรรคจะต้องเคารพผลการเลือกตั้งและไม่มีเหตุผลใดที่จะต่อสู้กับเรื่องนี้
“ผมไม่ได้กังวลอะไร แต่ก็ไม่ได้ประมาทด้วย” ปิตา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวในงานแถลงข่าว
“จะมีราคาที่ต้องจ่ายสูงหากมีคนคิดจะพลิกผลการเลือกตั้งหรือจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย” พิตา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวเน้นย้ำ
พรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของตระกูลชินวัตร ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายพิธา และขอให้หัวหน้าพรรคก้าวหน้าโชคดี
แกนนำพรรคเพื่อไทยมั่นใจ ส.ส.ร่วม 309 เสียง จัดตั้งรัฐบาลได้มั่นคง
นอกจากพรรคเพื่อไทยและพรรคเดินหน้าแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลยังประกอบด้วยพรรคประชาชาติ พรรคไทยแสงไทย และพรรคไทยเสรีภาพ
ทราคานห์ (ที่มา: รอยเตอร์)
มีประโยชน์
อารมณ์
ความคิดสร้างสรรค์
มีเอกลักษณ์
ความโกรธ
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)