
ยกเว้นเพียงวัสดุอุตสาหกรรมเท่านั้น โดยดัชนีกลุ่มปรับตัวสูงขึ้นจากราคากาแฟที่พุ่งสูงขึ้น โดยราคากาแฟอาราบิก้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 3.6% อยู่ที่ 7,852 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคากาแฟโรบัสต้าก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 6.1% อยู่ที่ 4,410 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่าสองเดือน การลดลงนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนอุปทานในบราซิล
ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยสมาคมผู้ส่งออกกาแฟของบราซิล (Cecafe) ผลผลิตส่งออกกาแฟของประเทศในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่เพียง 2.73 ล้านกระสอบ ลดลงร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งบราซิลส่งออก 3.78 ล้านกระสอบ
คาดการณ์ว่าเดือนสิงหาคมจะมีแนวโน้มลดลงเช่นเดียวกัน โดยการส่งออกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านกระสอบ ลดลง 26.55% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งการส่งออกอยู่ที่ 3.81 ล้านกระสอบ

ทางด้านธุรกิจส่งออกในประเทศกล่าวว่าเนื่องจากราคากาแฟที่สูงขึ้นและแรงกดดันด้านการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้คำสั่งซื้อส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นสัญญาส่งมอบล่วงหน้าเป็นหลัก
ด้วยราคาในประเทศในปัจจุบัน ผู้ส่งออกหลายรายกังวลว่าจะขาดทุนเมื่อขาย ส่งผลให้คลังสินค้าหลายแห่งไม่รับซื้อ และกิจกรรมการค้าล่าช้า
สำหรับสภาพอากาศใน ดั๊กนง ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่มีแดดและฝนสลับกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของต้นกาแฟ จากบันทึกพบว่าสวนกาแฟที่นี่เจริญเติบโตได้ดี ให้ผลดี และได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศและแมลงศัตรูพืชน้อย ผู้คนคาดหวังว่าผลผลิตในรอบต่อไปจะให้ผลผลิตสูง

ในตลาดโลหะ แรงขายยังคงครอบงำ โดยสินค้าโภคภัณฑ์ 8 ใน 10 รายการอ่อนค่าลงพร้อมกัน โดยราคาทองแดงในตลาด COMEX ลดลงเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน โดยลดลง 1.08% มาอยู่ที่ 4.42 ดอลลาร์สหรัฐ/ปอนด์ หรือ 9,749 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน MXV ระบุว่า การแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบกับแนวโน้มอุปทานที่ล้นตลาด กดดันตลาดทองแดงในช่วงการซื้อขาย
ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 98.27 ส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาเป็นดอลลาร์ เช่น ทองแดง ไม่น่าดึงดูดใจนักลงทุนที่ใช้สกุลเงินอื่น ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง
ที่มา: https://hanoimoi.vn/thi-truong-hang-hoa-nguyen-lieu-bao-trum-sac-do-713298.html
การแสดงความคิดเห็น (0)