ตำรวจภูธรจังหวัด วิญฟุก รายงานว่า ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 กรมตำรวจอาญาของตำรวจภูธรจังหวัดวิญฟุก ได้รับแจ้งความอาญาจากนาย VQX ซึ่งอาศัยอยู่ในอำเภอวิญเตือง จังหวัดวิญฟุก เกี่ยวกับการถูกหลอกลวงและถูกยึดทรัพย์สินในรูปแบบของ "การนัดพบเพียงคืนเดียว" นาย X ถูกหลอกลวงเอาเงินไปกว่า 1 พันล้านดองด้วยวิธีนี้
ตำรวจภูธรจังหวัดหวิงฟุก ระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สถานการณ์อาชญากรรมฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์บนโลกไซเบอร์ยังคงดำเนินต่อไป และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีวิธีการและกลโกงใหม่ๆ ที่ซับซ้อนและแยบยลมากมายที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรม ก่อให้เกิดความไม่พอใจในความคิดเห็นของสาธารณชน ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ในรูปแบบ "การนัดพบแบบชั่วข้ามคืน" ได้ปรากฏขึ้นในรูปแบบใหม่ โดยมุ่งเป้าไปที่เหยื่อที่เป็นผู้ชายที่อยากรู้อยากเห็นและต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ถูกกระทำจะสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมขึ้น และใช้ชื่อ รูปภาพ และโลโก้ของร้านอาหาร โรงแรม บาร์ และไนต์คลับจริง ๆ เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับเหยื่อ จากนั้นจึงลงโฆษณาบนเฟซบุ๊กที่มีเนื้อหาลามกอนาจาร เช่น "ระบบคอลเกิร์ลแห่งชาติ" "คอลเกิร์ล" "วันไนท์สแตนด์" ฯลฯ เมื่อมีคนเข้ามาหา ผู้ถูกกระทำจะล่อลวงเหยื่อให้เข้าร่วมกลุ่มในเทเลแกรม และสั่งให้เข้าถึงเว็บไซต์ปลอมเพื่อลงทะเบียนบัญชีและใช้บริการ หลังจากลงทะเบียนสำเร็จ ผู้ถูกกระทำจะยังคงสั่งให้เหยื่อฝากเงินเข้าบัญชีที่ผู้ถูกกระทำให้เพื่อเข้าร่วม "แพ็คเกจภารกิจวันไนท์สแตนด์"
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ผู้ถูกกระทำได้เพิ่มเหยื่อเข้ากลุ่มปิดใน Telegram ที่มีบัญชีอื่นๆ อีกมากมายทันที แต่ที่จริงแล้ว บัญชีในกลุ่มนี้ล้วนเป็นบัญชีปลอมของเหยื่อ เพื่อให้เหยื่อไว้วางใจและฝากเงินเพิ่มเพื่อสนองความอยากรู้ของตนเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อจำนวนเงินที่ฝากเพิ่มขึ้น ผู้ถูกกระทำก็ยังคงอ้างว่าเหยื่อทำผิดพลาดและขอฝากเงินเพิ่ม เงินทั้งหมดก็จะถูกถอนออกไป เมื่อเหยื่อไม่สามารถฝากเงินได้อีกต่อไป ผู้ถูกกระทำก็รีบบล็อกการติดต่อและยึดเงินที่ฝากไว้ เหยื่อของกลอุบายนี้มักจะขี้อายและไม่กล้าแจ้งความ
ในสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อป้องกันอาชญากรรมประเภทนี้อย่างเชิงรุก กรมตำรวจอาชญากรรม กองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดหวิงฟุก ขอแนะนำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้แอปพลิเคชันหาคู่ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมและดึงดูดผู้ใช้จำนวนมาก เนื่องจากเป็นโอกาสให้ผู้ร้ายฉวยโอกาสใช้อารมณ์และฉ้อโกงทรัพย์สินของผู้อื่น เมื่อพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ประชาชนไม่ควรปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ และควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงทันที เพื่อดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมาย
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)