ลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกของร่างกาย หรือที่รู้จักกันในชื่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (deep vein thrombosis) เรามีหลอดเลือดดำส่วนลึกจำนวนมากไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกาย เมื่อลิ่มเลือดเกิดขึ้นในหลอดเลือดดำเหล่านี้ อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติหลายอย่าง หรือแม้แต่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ ตามข้อมูลของเว็บไซต์สุขภาพ Medical News Today (UK)
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึกอาจทำให้ผิวหนังคันและอาจเกิดแผลได้
สถิติจากหอสมุดการแพทย์แห่งชาติสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่าประมาณ 1 ใน 1,000 คนมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก ลิ่มเลือดทำให้หลอดเลือดดำอ่อนแอ
ความเสียหายนี้นำไปสู่การอักเสบของหลอดเลือดดำ ทำให้ผิวหนังรอบๆ หลอดเลือดดำแห้ง แดง และคัน ภาวะนี้เรียกว่ากลุ่มอาการหลังภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (post-thrombophlebitic syndrome) ภาวะนี้อาจทำให้เกิดแผลที่ผิวหนัง ซึ่งอาจทำลายหลอดเลือดดำอย่างถาวรได้ แม้หลังจากรักษาลิ่มเลือดแล้วก็ตาม
ดังนั้น การตรวจพบอาการคันที่มือและเท้าตั้งแต่เนิ่นๆ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาว่าเกิดจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึกหรือไม่ การวินิจฉัยอาการนี้ไม่สามารถวินิจฉัยได้จากอาการคันที่ผิวหนังเพียงอย่างเดียว เพราะในความเป็นจริงแล้วอาการคันที่ผิวหนังมีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น ภูมิแพ้ สะเก็ดเงิน หรือแมลงสัตว์กัดต่อย
อย่างไรก็ตาม สัญญาณเตือนของภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึกคือเมื่อผิวหนังมีอาการคันและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาการบวมที่ขาหรือแขนบางส่วนหรือทั้งหมด ตำแหน่งของอาการบวมขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดลิ่มเลือด บางครั้งอาการบวมอาจรุนแรงจนทำให้ผิวหนังเป็นรอยบุ๋มเมื่อกดด้วยนิ้ว
นอกจากนี้ ลิ่มเลือดยังทำให้เกิดอาการปวดด้วย อาการปวดนี้มักจะปวดแบบตื้อๆ โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนไหว แขนและขาที่ได้รับผลกระทบอาจมีอาการตะคริวร่วมด้วย เนื่องจากลิ่มเลือดไปอุดตันการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดดำ นอกจากการอักเสบและบวมแล้ว ผิวหนังยังแดงและร้อนอีกด้วย
เมื่อพบอาการที่น่าสงสัย ผู้ป่วยจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด แพทย์จะตรวจสอบอาการและกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึกมักรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือดหรือการผ่าตัด ตามรายงานของ Medical News Today
ลิงค์ที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)