วิธีการเลือกไก่
เมื่อเลือกไก่ ควรให้ความสำคัญกับไก่พื้นเมืองเป็นอันดับแรก หากตัดสินใจซื้อไก่เป็นๆ สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจสุขภาพของไก่ด้วย
สัญญาณที่บ่งบอกว่าไก่มีสุขภาพแข็งแรง ได้แก่ ขนเป็นมันเงา ขนมีสีสดใส ลำตัวแน่น เกล็ดลิ้นใหญ่ และดวงตาสดใสเป็นพิเศษ
สำหรับไก่ที่บ่มแล้ว ควรเลือกไก่ที่มีผิวสีเหลืองอ่อนตามธรรมชาติและมีผิวบางสม่ำเสมอ
เมื่อตรวจดูไก่ ให้ใส่ใจกับความยืดหยุ่น รวมถึงความสม่ำเสมอของเนื้อลอย และไม่มีไขมันสีเหลืองสะสมบริเวณคอและต้นขา
หลีกเลี่ยงการเลือกไก่ที่ต้มสุกแล้วจากโรงงาน เพราะอาจทำให้ไก่แฉะ ไม่น่ารับประทาน และรสชาติจืดชืด เพื่อคุณภาพของอาหาร ควรเลือกไก่พื้นเมืองหรือไก่ที่เลี้ยงปล่อยเป็นหลัก
การแปรรูปไก่
หากนำมาใช้ในมื้ออาหาร ควรเลือกไก่ เพราะมีกระดูกเล็ก เนื้อขาวบริสุทธิ์ ผิวเหลืองสดใส และมีรสชาติหวานหอม
หลังจากทำความสะอาดไก่แล้ว ให้เอาไขมันออกจากท้องและคอไก่ เพื่อใช้ในภายหลัง โดยเฉพาะการผัดและเก็บไขมันไก่
จากนั้นใส่ไก่ลงในหม้อ ให้แน่ใจว่ามีน้ำเพียงพอให้ท่วมไก่ ใส่หอมแดง หัวหอม หรือต้นหอมซอยลงในหม้อขณะที่ไก่กำลังต้ม (ถ้าอยากทำซุปไก่ ก็สามารถใส่ขิงซอยลงไปเล็กน้อยได้)
โปรดทราบว่าหากคุณต้องการใช้น้ำซุปไก่เพื่อทำซุป ควรจำกัดปริมาณขิง เนื่องจากขิงอาจส่งผลต่อรสชาติของผักอื่นๆ เมื่อปรุงรวมกัน
วิธีต้มไก่ให้อร่อย
เริ่มต้นด้วยการเติมเกลือ 2 ช้อนโต๊ะลงในหม้อ ปรุงรสตามชอบ เหมือนตอนทำซุป วางหม้อบนเตา ต้มด้วยไฟกลางค่อนข้างแรงจนเดือด
เมื่อน้ำเดือดแล้ว ให้ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เคี่ยวต่ออีกประมาณ 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของไก่ จากนั้นปิดไฟ
ก่อนนำไปแช่ไก่ในน้ำประมาณ 30 นาที จากนั้นนำไก่ออกมาล้างด้วยน้ำเย็นเพื่อให้ไก่กรอบอร่อย ระหว่างล้าง ระวังอย่าให้มีคราบและสิ่งสกปรกติดอยู่บนไก่ แล้วสะเด็ดน้ำไก่
ระหว่างที่ไก่กำลังปรุง คุณสามารถตัดไขมันออกจากส่วนท้องและคอเพื่อนำมาใช้ในภายหลังได้ ใส่ไขมันลงในกระทะแล้วตั้งไฟให้ร้อน
โปรดทราบว่าเมื่อใส่น้ำมันลงในกระทะครั้งแรก ควรเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันน้ำมันกระเด็น ตั้งไฟกลาง และเมื่อน้ำมันละลายแล้ว ให้ลดไฟลงต่ำเพื่อป้องกันน้ำมันไหม้
ทำไมจึงควรต้มไก่ในน้ำเดือด?
เมื่อเทียบกับการต้มไก่ในน้ำเย็นแล้ว การต้มไก่ในน้ำเดือดจะยากกว่า คุณต้องปรับเวลาให้เหมาะสมและต้มไก่อย่างชำนาญ
วิธีการต้มแบบนี้มีข้อดีคือช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ภายในไก่ได้หมด ทำให้เนื้อไก่มีรสหวานกว่าวิธีต้มไก่ด้วยน้ำเย็นซึ่งจะทำให้คุณค่าทางโภชนาการสลายตัวไปเนื่องจากต้องใช้เวลาต้มนาน
วิธีต้มไก่ในน้ำเดือด ขั้นแรก ต้มน้ำปริมาณปานกลาง ใส่หัวหอมแห้ง ขิงบด และเกลือลงในน้ำ
ต่อไป ให้จุ่มไก่ลงในน้ำเดือด 2-3 ครั้งเพื่อให้ชินกับอุณหภูมิ ใส่ไก่ลงในหม้อโดยให้สะโพกคว่ำลง เพราะเป็นส่วนที่ใช้เวลานานที่สุดในการต้ม
วิธีต้มไก่ให้ได้หนังสีทองน่ารับประทาน
หากต้องการสร้างหนังไก่สีน้ำตาลทอง คุณสามารถทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้:
ขั้นตอนแรก หลังจากทอดไก่ในกระทะแล้ว ให้ตักไขมันจากไก่ประมาณ 20-30 มล. มาผสมกับขมิ้น เคล็ดลับนี้จะช่วยให้หนังไก่หลังจากต้มมีสีเหลืองทอง ชวนรับประทาน
หากคุณใช้ขมิ้นสด หลังจากเอาไขมันส่วนเกินออกแล้ว ให้สับขมิ้นให้ละเอียดแล้วคลุกเคล้ากับไขมันไก่ในกระทะ ตั้งกระทะให้ร้อนประมาณ 30 วินาทีถึง 1 นาที จากนั้นปิดไฟและใช้ไขมันทาไก่
ในกรณีที่คุณใช้ผงขมิ้น ให้เทผงขมิ้นลงในถ้วยหรือชามเล็ก จากนั้นเทน้ำร้อนจากกระทะลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
รอให้น้ำมันขมิ้นตกตะกอนและมีกลิ่นฉุน อย่านำไปต้ม เพื่อป้องกันกลิ่นขมิ้นแรงเกินไป (ต่างจากการใส่ขมิ้นลงในหม้อต้มโดยตรง)
เมื่อไขมันเกาะตัวกันดีแล้ว ให้นำชั้นไขมันนี้มาทาลงบนไก่ วิธีนี้จะทำให้หนังไก่มีสีเหลืองทองสวยงามโดยไม่ทำให้รสชาติเสียสมดุล (เมื่อเทียบกับการผสมขมิ้นลงในหม้อต้มโดยตรง)
เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่แน่นและสวยงาม ควรพักไก่ให้เย็นสนิทก่อนนำไปประกอบอาหาร นำไก่ไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมงก่อนหั่น วิธีนี้จะช่วยให้ไก่สวยงามยิ่งขึ้นเมื่อผ่านการแปรรูป ไขมันไก่ส่วนเกินหลังต้มสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ผัดผัก หรือทำข้าวเหนียวไก่แสนอร่อย
เพื่อให้ได้หนังไก่ต้มสีเหลืองสดและเนียน ให้นำไก่ไปแช่ในน้ำเดือดหรือน้ำเย็นทันทีหลังจากต้มเสร็จ รอจนไก่เย็นสนิทก่อนจัดใส่จาน หากไม่ทำเช่นนี้ หนังไก่อาจแห้งและสีไม่สวยงาม
สุดท้ายนี้ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของไก่ คุณสามารถนำขมิ้นมาปอกเปลือก บด และคั้นน้ำขมิ้นออกมา ผสมน้ำขมิ้นนี้กับไขมันไก่ทอดที่ทอดไว้ แล้วนำไปทาบนหนังไก่
ผลลัพธ์ที่ได้คือไก่ต้มที่ผิวสวย เงางาม เรียบเนียน และน่ารับประทาน ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการทำไก่ต้มที่อร่อยและน่ารับประทาน!
เมื่อเทียบกับการต้มไก่ในน้ำเย็นแล้ว การต้มไก่ในน้ำเดือดจะยากกว่า คุณต้องปรับเวลาให้เหมาะสมและต้มไก่อย่างชำนาญ
วิธีการต้มแบบนี้มีข้อดีคือช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ภายในไก่ได้หมด ทำให้เนื้อไก่มีรสหวานกว่าวิธีต้มไก่ด้วยน้ำเย็นซึ่งจะทำให้คุณค่าทางโภชนาการสลายตัวไปเนื่องจากต้องใช้เวลาต้มนาน
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)