ทีมส่องกล้องผ่าตัดเอาเศษกระดูกของคุณยายออก - ภาพ : โรงพยาบาล
ผู้ป่วยรายนี้คือ นางสาว LTHN อายุ 71 ปี จากจังหวัด Thai Binh เคยเข้ารับการรักษาโรคปอดที่โรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม อาการไอยังคงมีอยู่และไม่ดีขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยจึงถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลทั่วไปกานโธ เนื่องจากสงสัยว่ามีสิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ พร้อมทั้งติดตามอาการปอดบวมจากประวัติการป่วยเป็นวัณโรคปอด
คนไข้และครอบครัวบอกว่าพวกเขาจำไม่ได้ว่าตนเองสำลักกระดูกหรือไม่หรือเมื่อใด ผมจำได้แค่ว่าตอนนี้ผมไอบ่อยมากประมาณ 2 ปีแล้ว เป็นเวลานาน และจะแย่ลงเมื่อผมทำงานหรือออกแรง ผมไปรักษามาหลายที่แล้วแต่ก็ไม่ดีขึ้นเลยคิดว่าเป็นเพราะวัณโรคไม่หาย
ทีมแพทย์ได้ทำการตรวจและสั่งส่องกล้องเพื่อตรวจและนำสิ่งแปลกปลอมออก การส่องกล้องใช้เวลา 30 นาที จากภาพส่องกล้อง แพทย์พบว่าบริเวณหลอดลมชั้นกลาง ซึ่งเป็นปอดส่วนล่างข้างขวา ถูกสิ่งแปลกปลอมปิดกั้นไปครึ่งหนึ่ง บนผิวหลอดลมมีการอักเสบ การคั่งของเลือด และตรวจพบสิ่งแปลกปลอม
เนื่องด้วยอาการอักเสบของหลอดลมและสิ่งแปลกปลอมปรากฏมาเป็นเวลานาน ทีมงานจึงใช้เวลานานในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวออกไป ซึ่งเป็นกระดูกชิ้นหนึ่ง (คาดว่าเป็นกระดูกไก่) ที่มีความยาวเกิน 2 ซม.
แพทย์ระบุว่าคนไข้สำลักสิ่งแปลกปลอมเป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัว จนทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และทำให้ไอมาก หากมีสิ่งแปลกปลอมตกค้างเป็นเวลานานเกินไป อาจทำให้เกิดโรคปอดบวม ฝีในปอด และภาวะแทรกซ้อนอันตรายอื่นๆ ได้
ดังนั้น เมื่อตรวจพบอาการผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ ไอเป็นเวลานาน หรือไอหรือสำลักขณะรับประทานอาหาร ควรไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลที่มีชื่อเสียงและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจพบและรักษาได้ทันท่วงที
เมื่อสำลักสิ่งแปลกปลอมโดยไม่ได้ตั้งใจ ห้ามดึงออกเองหรือใช้มือดึงสิ่งแปลกปลอมออกโดยเด็ดขาด รวมถึงการไม่เป็นอัตวิสัยและละเลยการกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกไป ไปพบสถานพยาบาลเพื่อตรวจรักษาอย่างทันท่วงที
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)