ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดใน โลก เมื่อเร็วๆ นี้ (ที่มา: Decrypt) |
ปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้ผู้คนจัดการกับงานที่มีความซับซ้อนในอดีตได้ หลายคน รวมถึงนักการเมืองระดับสูง ก็ได้นำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงแรงงาน และลดระยะเวลาการทำงาน
ผู้ที่เชื่อ ผู้ที่สงสัย
ข้อมูลจาก KPMG บริษัทบัญชีระดับโลก ระบุว่า กลุ่มประเทศ BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้) กำลังนำ AI มาใช้ในทุกสาขา ที่น่าสังเกตคือ ประชากรครึ่งหนึ่งของประเทศเหล่านี้แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพอันยิ่งใหญ่ที่ AI นำมาให้
ในบรรดาประเทศที่กล่าวถึงข้างต้น ชาวอินเดียที่ตอบแบบสำรวจ 75% มีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ อัตราการนำ AI ไปใช้ในงานที่สำรวจในจีนสูงถึง 75% ขณะที่ในอินเดียอยู่ที่ประมาณ 66% และในบราซิลอยู่ที่ 50%
ในทางตรงกันข้าม ประเทศที่พัฒนาแล้วค่อนข้างกังขาเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ชาวอเมริกัน 40% ที่ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ แต่มีเพียง 24% เท่านั้นที่ยินดีใช้งาน ญี่ปุ่นและฟินแลนด์มีความคิดเห็นเชิงลบต่อปัญญาประดิษฐ์มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้งสองประเทศนี้มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 23% เท่านั้นที่ไว้วางใจปัญญาประดิษฐ์
การศึกษานี้จัดทำโดย KPMG ร่วมกับมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของออสเตรเลีย โดยสำรวจความคิดเห็นประชาชน 17,000 คน ใน 17 ประเทศ รวมถึงกลุ่มประเทศบริกส์ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ประเทศในยุโรป และอื่นๆ
แบบสำรวจนี้ประกอบด้วยคำถามที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานและการยอมรับ AI ในสาขาอาชีพต่างๆ เช่น การแพทย์ การเงิน และทรัพยากรบุคคล รวมไปถึงกิจกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน
การสำรวจของ KPMG ร่วมกับมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (ออสเตรเลีย) ดำเนินการใน 17 ประเทศและเขตการปกครอง (ที่มา: KPMG) |
เพิ่มความครอบคลุม
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เคยมีช่วงเวลาหนึ่งที่ AI เคยเป็นเสิร์ชเอ็นจิ้นอันดับหนึ่งบน Google เทคโนโลยีนี้ขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านต่างๆ เช่น การสร้างข้อความเป็นรูปภาพ โมเดลการเรียนรู้ภาษาขั้นสูง และแพลตฟอร์มที่สร้างเทคโนโลยีเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้ในชีวิตประจำวัน
ผลสำรวจพบว่า 82% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่ามีความรู้เกี่ยวกับ AI อยู่บ้าง ประเทศที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้มากที่สุดคือเกาหลีใต้ (98%) รองลงมาคือจีน (96%) ฟินแลนด์ (95%) และสิงคโปร์ (94%) ส่วนเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้น้อยที่สุดที่ 58%
จากผลสำรวจ พบว่าอุตสาหกรรมที่ต้องการความเชี่ยวชาญระดับสูงมีอัตราการนำ AI มาใช้ในระดับต่ำมาก เช่น การจัดการทรัพยากรบุคคล ซึ่งมีอัตราการนำ AI มาใช้เพียง 36% โดยรวมแล้ว ประชากรทั่วไป 67% เชื่อมั่นในศักยภาพของ AI ขณะที่มีเพียง 24% เท่านั้นที่คัดค้านการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในชีวิตจริง
แบบสำรวจความรู้สึกเมื่อนำ AI มาใช้ในชีวิต (ที่มา: KPMG) |
การยอมรับและความไว้วางใจใน AI ไม่เพียงแต่ในบริบทการทำงานเฉพาะด้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริบททั่วไปด้วย กำลังเปิดโอกาสมากมายให้ผู้คนเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงาน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยของ KPMG ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าผู้ใช้ต้องพิจารณาความเสี่ยงและข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น
ในความเป็นจริง ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยกังวลว่าการพัฒนา AI อย่างรวดเร็วเกินไปอาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ประสบความสำเร็จอย่างมาก จน – ตามที่บุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมบางคนกล่าว – ทุกอย่างอาจพัฒนาหลุดจากการควบคุมได้หากไม่มีการควบคุมที่เหมาะสม
Elon Musk, Steve Wozniak และแม้แต่ Emad Mostaque ซึ่งเป็น CEO ของ Stability AI ผู้พัฒนาโมเดลการถ่ายภาพ AI Stable Diffusion ต่างออกมาเรียกร้องให้หยุดการพัฒนา AI ที่แข็งแกร่งกว่า ChatGPT ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)