เมื่อเช้าวันที่ 30 กรกฎาคม ณ กรุงฮานอย สถาบันโลหิตวิทยาและการถ่ายเลือดแห่งชาติประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลแห่งชาติเพื่อการบริจาคโลหิตโดยสมัครใจ เพื่อจัดการประชุมสรุปโครงการ Red Journey 2023 ครั้งที่ 11
รองศาสตราจารย์ ดร.เหงียน ฮา ทานห์ ผู้อำนวยการสถาบันโลหิตวิทยาและการถ่ายเลือดแห่งชาติ และหัวหน้าคณะกรรมการจัดงาน Red Journey 2023 กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีปิด |
ในการประชุมสรุปผล รองศาสตราจารย์ ดร. เหงียน ฮา ทานห์ ผู้อำนวยการสถาบันโลหิตวิทยาและการถ่ายเลือดแห่งชาติ หัวหน้าคณะกรรมการจัดงาน Red Journey 2023 กล่าวว่า “ด้วยผลลัพธ์ที่น่ายินดีเหล่านี้ Red Journey จึงมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยหลายแสนคนมีชีวิตรอดได้ ช่วยให้ภาคส่วนสุขภาพเอาชนะความยากลำบากและความท้าทายต่างๆ มากมาย เพื่อให้แน่ใจว่างานดูแลและปกป้องสุขภาพของผู้คนดำเนินไปอย่างราบรื่น Red Journey ได้จุดประกายความรักและความสามัคคีอย่างแท้จริง เสริมสร้างประเพณีแห่งความรักและความเสน่หาอันน่าภาคภูมิใจของประเทศชาติ และร่วมมือกันสร้างชุมชนแห่งความเมตตากรุณา”
Red Journey ดึงดูดวัยรุ่นจำนวนมากให้มาบริจาคโลหิต |
Red Journey เป็นโครงการบริจาคโลหิตครั้งใหญ่ที่สุดแห่งปี จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2556 โดยเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิผลในการเอาชนะปัญหาการขาดแคลนโลหิตสำหรับการรักษาในช่วงฤดูร้อนทุกๆ ปี
เพื่อส่งเสริมจิตวิญญาณและผลลัพธ์ดังกล่าว โครงการปีที่ 11 จึงจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มิถุนายนถึง 30 กรกฎาคม โดยมีจังหวัด/เมืองเข้าร่วม 46 แห่ง หลังจากผ่านไป 2 เดือน Red Journey 2023 ได้จัดจุดรับบริจาคโลหิตอย่างเป็นทางการจำนวน 68 จุด ได้รับโลหิตไปแล้วมากกว่า 45,000 ยูนิต มีจุดรับบริจาคโลหิตตอบรับ 240 จุด ได้รับโลหิตเกือบ 70,000 ยูนิต รวมจุดรับบริจาคโลหิตทุกจุดและวันตอบรับทั้งสิ้น 308 จุด ได้รับโลหิตกว่า 115,000 ยูนิต โดยภายหลังจากการจัดตั้งมาเป็นเวลา 11 ปี Red Journey ได้เกิดขึ้นใน 58/63 จังหวัด/เมือง สำเร็จจัดจุดรับบริจาคโลหิตได้ 2,653 จุด ได้รับโลหิตมากกว่า 810,000 ยูนิต
เยาวชนแห่งการเดินทางสีแดง |
ในการประชุม ดร.เหงียน ตรอง กัว รองอธิบดีกรมตรวจร่างกายและการจัดการการรักษา (กระทรวงสาธารณสุข) ชื่นชมการสนับสนุนของ Red Journey ในการให้บริการการรักษาและการดูแลฉุกเฉินตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยหลายแสนรายได้รับการช่วยชีวิต ดร.เหงียน ตรอง ควาย ยังได้ชื่นชมความพยายามของสถาบันโลหิตวิทยาและการถ่ายเลือดแห่งชาติในการสื่อสาร ควบคุม และเชื่อมโยงภาคส่วนและท้องถิ่นเพื่อมีส่วนร่วมและสร้างขบวนการบริจาคโลหิตโดยสมัครใจที่แพร่หลายไปทั่วประเทศ นับเป็นผลงานสำคัญของ Red Journey ที่ได้ "เติมพลัง" ให้กับภาคส่วนสาธารณสุขในช่วงเวลาที่ท้าทายหลายๆ ช่วง เช่น การระบาดของโควิด-19
ข่าวและภาพ : PHAM HUNG
*โปรดเยี่ยมชม ส่วนสุขภาพเพื่อดูข่าวสารและบทความที่เกี่ยวข้อง
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)