การคืนหนังสือเรียนให้กับโรงเรียน
หนังสือเวียนที่ 27/2023/TT-BGDDT เรื่อง การควบคุมการคัดเลือกหนังสือเรียนในสถาบัน การศึกษา ทั่วไป แทนที่หนังสือเวียนที่ 25/2020/TT-BGDDT ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 จนถึงปัจจุบัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563
ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดของหนังสือเวียนฉบับใหม่นี้ก็คือ สิทธิในการตัดสินใจเลือกหนังสือเรียนจะถูกมอบให้กับสถาบันการศึกษาแทนที่จะเป็นคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัดเช่นเดิม
การคืนทางเลือกหนังสือเรียนให้กับโรงเรียนเป็นหนึ่งในนโยบายการศึกษาที่สำคัญที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะกรรมการคัดเลือกตำราเรียนของสถาบันการศึกษาจะจัดตั้งขึ้นโดยผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาหรือผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาต่อเนื่อง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาวิชาชีพ-การศึกษาต่อเนื่อง หัวหน้าสถาบันการศึกษาที่ดำเนินโครงการการศึกษาทั่วไป โครงการการศึกษาต่อเนื่องระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย เพื่อช่วยเหลือหัวหน้าสถาบันการศึกษาในการจัดการคัดเลือกตำราเรียน
หนังสือเวียนยังระบุชัดเจนว่า “ผู้ที่เข้าร่วมจัดทำตำราเรียนหรือมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลการจัดทำ จัดพิมพ์ และจัดจำหน่ายตำราเรียน (ตามรายชื่อตำราเรียนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอนุมัติ) บิดา มารดา คู่สมรส พี่น้องของผู้ที่เข้าร่วมจัดทำตำราเรียนหรือมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลการจัดทำ จัดพิมพ์ และจัดจำหน่ายตำราเรียน ผู้ที่ทำงานในสำนักพิมพ์และองค์กรที่มีตำราเรียน ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมสภา”
เนื่องจากหนังสือเวียนฉบับใหม่กำหนดสิทธิ์ในการเลือกตำราเรียนให้กับสถาบันการศึกษา กรมการศึกษาและการฝึกอบรมจึงมีหน้าที่ประเมินบันทึกการเลือกตำราเรียนของสถาบันการศึกษาภายใต้การบริหารจัดการ โดยรายงานผลการประเมินและรายชื่อตำราเรียนที่สถาบันการศึกษาภายใต้การบริหารจัดการเลือกไปยังกรมการศึกษาและการฝึกอบรม
กรมสามัญศึกษา มีหน้าที่ประเมินเอกสารการคัดเลือกตำราเรียนของสถาบันการศึกษาที่สังกัด ทบทวนรายงานของกรมสามัญศึกษาเกี่ยวกับผลการประเมินและรายชื่อตำราเรียนที่สถาบันการศึกษาคัดเลือก รวบรวมผลการประเมิน จัดทำรายชื่อตำราเรียนที่สถาบันการศึกษาคัดเลือก และนำเสนอต่อคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุมัติ
แทนที่จะจัดตั้งสภาการคัดเลือกหนังสือเรียนโดยตรงทั้งจังหวัดเหมือนระเบียบเดิม ระเบียบใหม่มีหน้าที่เพียงตัดสินใจอนุมัติรายชื่อหนังสือเรียนที่สถาบันการศึกษาคัดเลือก (ส่งโดยกรมการศึกษาและการฝึกอบรม) เท่านั้น
ยกเลิกการจัดประเภทการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ตามหนังสือเวียนที่ 31/2023/TT-BGDDT เรื่อง ระเบียบการพิจารณาและรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ตั้งแต่ปีการศึกษา 2567-2568 การสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมีประเด็นใหม่ที่น่าสนใจบางประการ
สถาบันการศึกษาที่ดำเนินโครงการศึกษาทั่วไปในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจะจัดให้มีการสอบวัดผลสำเร็จการศึกษาไม่เกินสองครั้ง การสอบวัดผลสำเร็จการศึกษาครั้งแรกจะดำเนินการทันทีหลังจากสิ้นสุดปีการศึกษา และการสอบวัดผลสำเร็จการศึกษาครั้งที่สอง (ถ้ามี) จะดำเนินการก่อนเปิดภาคเรียนใหม่
สถาบันการศึกษาที่จัดโครงการศึกษาต่อเนื่องในระดับมัธยมศึกษาจัดให้มีการประกาศเกียรติคุณการสำเร็จการศึกษาอย่างน้อยหนึ่งครั้งทันทีหลังจากสิ้นสุดปีการศึกษา
ตามกฎระเบียบใหม่ ประกาศนียบัตรการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจะไม่มีผลการเรียนดีเยี่ยม ดี หรือปานกลางอีกต่อไปตามกฎระเบียบเดิม นักเรียนจะได้รับการรับรองว่าสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หากมีอายุต่ำกว่า 21 ปี สำเร็จการศึกษาหลักสูตรการศึกษาทั่วไปในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมีใบสมัครขอรับรองการสำเร็จการศึกษาที่สมบูรณ์
สำหรับกระบวนการพิจารณาการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย อธิบดีกรมสามัญศึกษาและฝึกอบรมจะจัดตั้งสภารับรองการสำเร็จการศึกษาสำหรับแต่ละโรงเรียน สภาดังกล่าวต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 7 คน และต้องเป็นจำนวนคี่ สภาจะตรวจสอบประวัตินักเรียน จัดทำรายชื่อนักเรียนที่มีสิทธิ์สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และอนุมัติ จากนั้น กรมสามัญศึกษาและฝึกอบรมจะพิจารณาอนุมัติการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและออกประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนตามรายชื่อนี้
ตามระเบียบเก่า (มติ 11/2006/QD-BGDDT) นักเรียนมัธยมต้นจะได้รับการพิจารณาให้สำเร็จการศึกษาปีละครั้งทันทีหลังจากสิ้นสุดปีการศึกษา (ตามระบบเงินเดือนประจำปีการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรม) ตามระบบเงินเดือนประจำปีการศึกษา การพิจารณาให้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมต้นตามมติ 11/2006/QD-BGDDT ยังคงใช้บังคับจนถึงสิ้นปีการศึกษา 2566-2567
ลิงค์ที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)