ด้วยปริมาณคาเฟอีนตามธรรมชาติ กาแฟจึงช่วยเร่งการเผาผลาญ ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟไม่ได้มีประโยชน์เสมอไป การดื่มกาแฟในเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความวิตกกังวล นอนไม่หลับ และความไม่สมดุลของฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลเสียต่อเป้าหมายการลดน้ำหนัก ตามข้อมูลของเว็บไซต์สุขภาพ Verywellfit (สหรัฐอเมริกา)
ควรจำกัดการดื่มกาแฟในช่วงเย็นเพราะอาจส่งผลต่อการนอนหลับตอนกลางคืนได้
ภาพ: AI
เพื่อหลีกเลี่ยงอาการนอนไม่หลับและเพิ่มประโยชน์ในการลดน้ำหนักให้สูงสุด ผู้คนควรดื่มกาแฟในเวลาต่อไปนี้:
ดื่มหลังตื่นนอน 1-2 ชั่วโมง
หลายคนมีนิสัยดื่มกาแฟทันทีหลังตื่นนอน แต่การทำเช่นนี้อาจส่งผลเสียได้ เหตุผลก็คือ ประมาณ 30-45 นาทีหลังตื่นนอนเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลในระดับสูงสุดตามธรรมชาติของวัน
หากคุณดื่มกาแฟในเวลานี้ คาเฟอีนอาจทำปฏิกิริยากับคอร์ติซอล ส่งผลให้จังหวะการทำงานของร่างกายผิดปกติและลดอัตราการเผาผลาญในระยะยาว ควรดื่มกาแฟหลังจากตื่นนอนประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
รับประทานก่อนออกกำลังกาย 30-60 นาที
การดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มการเผาผลาญไขมัน คาเฟอีนช่วยเพิ่มความอดทน สมาธิ และดึงกรดไขมันจากไขมันสะสม
การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน วารสารของ International Society of Sports Nutrition พบว่าการดื่มกาแฟ 30 นาทีก่อนออกกำลังกายช่วยเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
ดื่มช่วงสายหรือบ่าย
เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการดื่มกาแฟคือระหว่าง 21.30-23.30 น. และ 13.00-15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ระดับพลังงานตามธรรมชาติของคุณจะเริ่มลดลงเล็กน้อย กาแฟสามารถช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัวและหลีกเลี่ยงการกินจุบจิบเนื่องจากความเหนื่อยล้า
ในความเป็นจริงคาเฟอีนช่วยลดความหิวชั่วคราวโดยการยับยั้งฮอร์โมนเกรลินซึ่งกระตุ้นความอยากอาหาร
จำกัดการดื่มกาแฟหลัง 15.00 น.
ความผิดพลาดที่พบบ่อยอย่างหนึ่งคือการดื่มกาแฟในช่วงบ่ายแก่ๆ หรือช่วงเย็นเพื่อให้ตื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำงานล่วงเวลา อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการบริโภคคาเฟอีนภายใน 6 ชั่วโมงก่อนเข้านอนอาจลดคุณภาพการนอนหลับ ทำให้นอนหลับยาก
การนอนไม่เพียงพอส่งผลโดยตรงต่อระดับฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและความอิ่ม ทำให้คุณกินมากขึ้นในวันถัดไป โดยเฉพาะอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง ภาวะนี้เพิ่มความเสี่ยงต่อการสะสมไขมันในช่องท้องและอวัยวะภายใน จากข้อมูลของ Verywellfit
ที่มา: https://thanhnien.vn/ca-phe-nen-uong-luc-nao-de-vua-giam-can-vua-khong-mat-ngu-185250809161812563.htm
การแสดงความคิดเห็น (0)