Bird เคยเป็นบริษัทโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ภาพถ่าย: “Yicai . |
Bird ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 โดยเริ่มต้นในตลาดเพจเจอร์ ครึ่งทศวรรษต่อมา บริษัทจีนในประเทศแห่งนี้ได้จำหน่ายอุปกรณ์ได้มากกว่า 1 ล้านเครื่อง คิดเป็น 20% ของส่วนแบ่งการตลาดในประเทศที่มีประชากรกว่าพันล้านคน เมื่อเครื่องเพจเจอร์ถูกแทนที่ด้วยโทรศัพท์มือถือ Bird ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวแรกในปี 1999
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ธุรกิจก็ถึงจุดสูงสุด ในปี พ.ศ. 2546 พวกเขาขายอุปกรณ์ได้มากกว่า 10 ล้านเครื่องต่อปี ตัวเลขนี้ช่วยให้ Bird เอาชนะทั้ง Motorola และ Nokia และกลายเป็นบริษัทโทรศัพท์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน
รุ่น Bird S2000 ที่มีดีไซน์แบบพลิกกลับและรับสัญญาณได้แรง ถือเป็นมาตรฐานสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ในยุค 2000 รุ่นที่มีราคาไม่แพงและมีดีไซน์ทันสมัยที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ที่เป็นผู้หญิงก็ได้รับความนิยมในประเทศที่มีประชากรกว่าพันล้านคนเช่นกัน
![]() |
Bird S2000 รุ่นฝาพับ ภาพจาก : QQ. |
จุดเปลี่ยนมาถึงในปี 2550 เมื่อมีการเปิดตัว iPhone ซึ่งเป็นการเริ่มต้นยุคแห่งสมาร์ทโฟน Bird ติดอยู่ในทางเลือกระหว่างการผลิตโทรศัพท์เลียนแบบราคาถูกต่อไปหรือลงทุนอย่างจริงจังกับสมาร์ทโฟน พวกเขาไม่มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอีกต่อไปเมื่อผลิตภัณฑ์ของพวกเขาขาดความโดดเด่น และข้อได้เปรียบของราคาต่ำก็หายไปเช่นกัน
ในช่วงปี 2010 Bird เริ่มละทิ้งแบรนด์ และหันไปทำ ODM แทน พวกเขาได้รับ "เงินเล็กๆ น้อยๆ" จากการผลิตสมาร์ทโฟนเพื่อขายให้กับประเทศกำลังพัฒนา การไม่ได้ยึดมั่นในคุณค่าหลักทำให้ผู้ผลิตนี้ค่อยๆ หายไปและถูกกำจัดออกจากตลาด ภายในปี 2022 การขนส่งจะเหลือต่ำกว่า 500,000 รายการ
ในปี 2023 รายได้ของ Bird จะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านหยวน ลดลง 11% พวกเขาประสบภาวะขาดทุนสุทธิ 43 ล้านหยวน เนื่องจากการลงทุนไม่ประสบผลตอบแทน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีความเสี่ยงที่จะถูกเพิกถอนออกจากการจดทะเบียน อนาคตของบริษัทนี้ยังไม่แน่นอนเช่นเดียวกับ Coolpad หรือ Gionee ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโทรศัพท์มือถือของจีนที่ล้มละลายเพราะการเปลี่ยนแปลงที่ล่าช้า
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสัมพันธ์กับ Transsion ซึ่งเป็น “ราชาสมาร์ทโฟนแห่งแอฟริกา” ที่มีต้นกำเนิดจากจีนอีกด้วย ทีมผู้ก่อตั้งบริษัทเดิมเป็นส่วนหนึ่งของทีมพัฒนาต่างประเทศของ Bird อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพวกเขาดำเนินงานอย่างอิสระ โดยไม่เกี่ยวข้องกับเงินทุน
ที่มา: https://znews.vn/vua-di-dong-trung-quoc-lui-tan-post1550802.html
การแสดงความคิดเห็น (0)