เพื่อช่วยให้เกษตรกรค้นหาวิธีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากในการปลูกข้าว ในฤดูปลูกข้าวฤดูหนาว-ฤดูใบไม้ผลิ ปี 2023-2024 ศูนย์ขยายงานการเกษตรแห่งชาติ (กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท) ได้ประสานงานกับบริษัท Binh Dien Fertilizer Joint Stock Company และศูนย์ขยายงานการเกษตรใน 13 จังหวัดในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เพื่อดำเนินโครงการ "การปลูกข้าวอย่างชาญฉลาด ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ ร่วมกับการเติบโตสีเขียวในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง"
นอกจากนี้ เพื่อให้มีทิศทางการผลิตที่ยั่งยืน ประหยัดต้นทุนสูงสุด และเพิ่มกำไรให้สูงสุด โปรแกรมดังกล่าวมีการผสมผสานหน่วยงาน หน่วยงาน บริษัท สถานประกอบการ และเกษตรกรจำนวนมาก เช่น บริษัท ไซง่อน คิม ฮอง บริษัท ไบเออร์ เวียดนาม บริษัท วีนาไรซ์ เพื่อจัดกิจกรรมการสาธิตการใช้งาน
เกษตรกรเข้าเยี่ยมชมโมเดล “การปลูกข้าวอัจฉริยะ ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ ร่วมกับการเติบโตสีเขียวในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง” ซึ่งจัดทำโดยศูนย์บริการการเกษตรเมืองกานโธ ร่วมกับกรมเกษตรและพัฒนาชนบท อำเภอโกโด สถานีขยายการเกษตร สหกรณ์การเกษตรกงดาญ และบริษัทต่างๆ ภาพโดย : วี.ดี.
ในเมืองกานโธ ศูนย์บริการการเกษตรเมืองกานโธ ร่วมกับกรมเกษตรและพัฒนาชนบทอำเภอโกโด สถานีขยายการเกษตร สหกรณ์การเกษตรกงดาญ หน่วยงานท้องถิ่น ธุรกิจและบริษัทต่างๆ จัดโครงการสาธิตในหมู่บ้าน Thoi Hiep 2 ตำบลด่งทัง อำเภอโกโด (เมืองกานโธ) เพื่อถ่ายทอดแนวทางการทำเกษตรอัจฉริยะให้กับเกษตรกรในการปรับตัวตามสถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ราคาปุ๋ยที่สูงขึ้น และโรคร้ายแรงที่เพิ่มมากขึ้น...
เป้าหมายโดยทั่วไปของแบบจำลองนี้คือการช่วยให้เกษตรกรสามารถนำมาตรการปลูกข้าวขั้นสูงมาใช้อย่างพร้อมกัน (เช่น ใช้กระบวนการ "ลด 1 อย่าง 5 อย่าง" การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน IPM แนวทางแก้ปัญหาข้าวให้ได้มากขึ้นในการผลิต เทคนิคการชลประทานแบบสลับน้ำท่วมและแบบแห้งแล้ง ฯลฯ) เพื่อลดต้นทุนการผลิตข้าว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก; ลดมลภาวะทางดินและน้ำ และปกป้องสุขภาพของผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยเฉพาะเมื่อนำไปปฏิบัติแล้ว เกษตรกรจะเป็นผู้ชำนาญในการปลูกข้าว
นี่เป็นหนึ่งในแนวทางในการสนับสนุนการดำเนินโครงการปลูกข้าวคุณภาพดีที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ 1 ล้านเฮกตาร์ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ตามนั้น หน่วยงานจึงตกลงเลือกครัวเรือนของนายเล ทานห์ ตุง ในหมู่บ้าน Thoi Hiep 2 ตำบลด่งถัง อำเภอโกโด เพื่อเข้าร่วมโครงการต้นแบบ พื้นที่ 1.2 ไร่ พื้นที่ควบคุมจำลองขนาด 2 ไร่
แบบจำลองนี้ถูกนำไปปฏิบัติที่บ้านของนายเล ทานห์ ตุง หมู่บ้าน Thoi Hiep 2 ตำบลด่งถัง อำเภอโกโด เมืองกานโธ ภาพโดย : วี.ดี.
นายตุง กล่าวว่า หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาวปี 2566 แล้ว เขาได้สูบน้ำเข้าไปในทุ่งเพื่อฝังฟางไว้ในดิน จากนั้นจึงท่วมทุ่งนาเป็นเวลา 2 เดือนกว่า เพื่อย่อยสลายฟางและคืนสารอาหารให้ดิน การท่วมทุ่งนายังมีจุดมุ่งหมายเพื่อตัดแหล่งที่มาของศัตรูพืชและเพลี้ยกระโดดด้วย
ก่อนจะหว่านข้าว 10 วัน เขาจะระบายน้ำออกจากนาเพื่อทำความสะอาดนา ซ่อมแซมตลิ่ง เจาะท่อน้ำในนา กำจัดหอยทาก และฆ่าหนู ก่อนหว่านเมล็ด 2 วัน ให้ใส่ปุ๋ยเกลือส้ม ก่อนจะหว่านเมล็ดข้าว จะทำการบำบัดดินในแปลงจำลองให้พื้นดินเรียบ โดยขุดคูน้ำและเนินดินขนาดใหญ่หลายๆ แห่งอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันน้ำนิ่งและการสูญเสียเมล็ดข้าว
นายตุง ได้ประยุกต์ใช้วิธีการหว่านเมล็ดแบบกระจุกด้วยเครื่องจักร จำนวนเมล็ดพันธุ์ 50 กก./ไร่ ในขณะที่แปลงควบคุมได้ประยุกต์ใช้วิธีการหว่านเมล็ดแบบกระจุกด้วยเครื่องจักร จำนวนเมล็ดพันธุ์ 154 กก./ไร่ ทั้งสองแปลงใช้ข้าวพันธุ์ Dai Thom 8 ที่ผ่านการรับรองระดับ 1 ในส่วนของปริมาณการหว่านเมล็ด แปลงจำลองมีต้นทุนการหว่านมากกว่าแปลงควบคุมถึง 104 กก.
ในด้านการให้ปุ๋ย ครัวเรือนของนายตุงใช้เทคนิคใส่ปุ๋ยน้ำเค็ม-ส้มแขก Dau Trau ในช่วงเริ่มฤดูเพาะปลูก และใช้ปุ๋ยเฉพาะทางสำหรับข้าวตามสูตรของบริษัท Binh Dien Fertilizer Joint Stock Company เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว นอกจากนี้ นายตุง ได้นำเทคนิคการผลิตแบบซิงโครนัสและมาตรการการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM) มาใช้เพื่อลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืช การจัดการศัตรูพืชตามกระบวนการแก้ปัญหา Much More Rice ในการผลิตข้าว ใช้เทคนิคการสลับท่วมและแห้งเพื่อประหยัดน้ำ...
ด้วยการประยุกต์ใช้เทคนิคเกษตรอัจฉริยะ ทำให้พื้นที่จำลองนี้ให้ผลผลิต 9 ตันต่อเฮกตาร์ และมีกำไรมากกว่า 52 ล้านดองต่อเฮกตาร์ ภาพโดย : วี.ดี.
เมื่อเปรียบเทียบกับทุ่งนาที่ปลูกด้วยเครื่องจักร ทุ่งนาที่ปลูกเป็นกลุ่มจะมีจำนวนน้อยลง ต้นข้าวจะเติบโตแข็งแรงและทนทานมากขึ้น มีโอกาสล้มน้อยลง และจำกัดแมลงและโรคพืชได้ ข้าวกอมีกิ่งจำนวนมากและมีดอกขนาดใหญ่ จากการประเมินผลการผลิต แปลงปลูกข้าวอัจฉริยะให้ผลผลิต 9 ตัน/เฮกตาร์ และมีกำไรมากกว่า 52 ล้านดอง/เฮกตาร์ ขณะที่แปลงควบคุมให้ผลผลิต 8.23 ตัน/ไร่ สร้างกำไรกว่า 41 ล้านดอง/ไร่
ดังนั้น ด้วยมาตรการลดปริมาณการหว่านเมล็ด ลดปริมาณปุ๋ย หว่านข้าวเป็นกระจุกด้วยเครื่องจักรและเทคนิคขั้นสูง ทำให้แปลงจำลองเจริญเติบโตสมบูรณ์ กอข้าวโปร่งสบาย มีแมลงและโรคพืชน้อยลง เกษตรกรจึงลดปริมาณยาฆ่าแมลงลงไปได้บ้าง จากนั้นสนามจำลองจะลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับสนามควบคุม
พืชฤดูหนาว-ใบไม้ผลิ 2566 - 2567 เกษตรกรเมือง จังหวัดกานโธปลูกพื้นที่ไปแล้วกว่า 72,800 เฮกตาร์ คิดเป็น 101% ของแผน โดยมีผลผลิตเฉลี่ยเกือบ 8 ตันต่อเฮกตาร์ เกษตรกรเริ่มการผลิตพืชผลฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วงปี 2567 แล้ว
กรมเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดกานโธเตือนภาคการเกษตรและเกษตรกรในพื้นที่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพในการย่อยสลายฟาง ใช้แพ็คเกจเทคนิคขั้นสูงในการผลิตเพื่อลดต้นทุน เช่น “ลด 3 เพิ่ม 3” “ต้อง 1 ลด 5” และปลูกข้าวอัจฉริยะเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำเป็นต้องลดปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ต้องหว่านลงอย่างจริงจัง (ประมาณ 60-80 กก./ไร่) ควบคู่ไปกับการเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดี ให้ถึงระดับที่ผ่านการรับรองหรือสูงกว่า เพื่อช่วยให้ต้นข้าวแข็งแรงตั้งแต่ต้นฤดูกาล ใช้เทคนิคการใช้เครื่องจักรที่แม่นยำในการเพาะปลูก การใส่ปุ๋ย และการพ่นยาข้าว เพื่อใช้วัตถุดิบอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ และใส่ใจการฝังสารละลายปุ๋ย เพื่อจำกัดการสูญเสียและการระเหยของปุ๋ยในช่วงฤดูแล้ง มุ่งเน้นการคัดเลือกและผลิตพันธุ์ข้าวคุณภาพฤดูข้าวฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วง (เช่น พันธุ์ OM 5451, OM 18...) เพื่อให้บริโภคได้สะดวก...
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)