เมื่อ AI วาดแวมไพร์
ผู้ใช้ TikTok สร้างรายได้จากวิดีโอที่ส่งเสริม "ทฤษฎีสมคบคิด" ที่ไม่มีมูลความจริงเกี่ยวกับวันสิ้น โลก มากขึ้น ตามรายงานขององค์กรไม่แสวงหากำไร Media Matters
นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าข้อมูลเท็จแพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนแพลตฟอร์มได้อย่างไร ซึ่งเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขและเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในการอภิปรายนโยบายล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแบนแอปดังกล่าวด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
วิดีโอ อันตรายที่มีเพลงประกอบ ภาพ หรือแม้แต่เสียงคนดังสุดหลอน ซึ่งสร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) มักดึงดูดยอดวิวหลายล้านครั้งบน TikTok โดยเฉพาะวิดีโอสมคบคิดที่มักถูกโพสต์โดยบัญชีที่ไม่ระบุตัวตน
Abbie Richards นักวิจัยของ TikTok กล่าวว่าวิดีโอประเภทนี้อาจเป็นประโยชน์ทางการเงินแก่ผู้สร้าง TikTok ได้ผ่านโปรแกรมผู้สร้างบนแพลตฟอร์ม
“อุตสาหกรรมกระท่อม” นี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องมือ AI ที่มีให้ใช้กันอย่างแพร่หลายและฟรี
ทางด้านโฆษกของ TikTok เน้นย้ำว่า “ทฤษฎีสมคบคิดไม่มีสิทธิ์สร้างรายได้หรือแนะนำ” ในฟีดของผู้ใช้
บุคคลดังกล่าวอ้างว่าจะห้ามการเผยแพร่ข้อมูลเท็จอันเป็นอันตราย และทีมงานด้านความปลอดภัยจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวออกให้ได้ 95% ก่อนที่จะได้รับรายงานจากผู้ใช้งาน
ความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลเท็จที่เกิดจาก AI มีสูงเป็นพิเศษในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีการเลือกตั้งสำคัญเกิดขึ้นทั่วโลก
ทั้งยุโรปและอเมริกาต่างก็กลัว TikTok
สัปดาห์ที่แล้ว สหภาพยุโรป (EU) ได้ใช้พระราชบัญญัติบริการดิจิทัล (DSA) เพื่อกดดันแพลตฟอร์มหลายแห่ง รวมถึง TikTok ให้แก้ไขความเสี่ยงจาก AI ที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในสหภาพยุโรปที่มีสมาชิก 27 ประเทศ
ในสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ใช้ TikTok ประมาณ 170 ล้านคน สมาชิกรัฐสภาก็สนับสนุนร่างกฎหมายห้าม TikTok อย่างล้นหลามเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน
ร่างกฎหมายซึ่งผ่านโดยสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 13 มีนาคม กำหนดให้บริษัทแม่ ByteDance ต้องดำเนินการเพื่อสละการควบคุมแอป TikTok ภายใน 180 วัน มิฉะนั้น แอปดังกล่าวจะถูกแบนจากร้านแอปของ Apple และ Google ในสหรัฐอเมริกา
นี่ถือเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับแอปแชร์วิดีโอ TikTok ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์และนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในทางที่ผิด TikTok ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้หลายครั้ง
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)