เริ่มต้นวันใหม่ของคุณด้วยข่าวสารด้านสุขภาพ ผู้อ่านยังสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: วิจัยค้นพบคุณประโยชน์ของการซาวข้าวก่อนหุง; 4 โรคที่ควรระวังหากมีอาการปวดขาเรื้อรังไม่หาย; ค้นพบวิธีเดินลดความเสี่ยงเบาหวานได้ถึง 39%...
9 ประโยชน์ของการดื่มชาขิงเมื่ออากาศหนาว
ประโยชน์ต่อสุขภาพของขิง ได้แก่ ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการคลื่นไส้ ลดการอักเสบ ปรับปรุงสุขภาพหัวใจ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ประโยชน์ต่อสุขภาพของการดื่มชาขิงในฤดูหนาวมีดังนี้
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของคุณ ขิงมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของคุณ ช่วยให้ร่างกายของคุณต่อสู้กับโรคต่างๆ ในฤดูหนาว เช่น ไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น
ขิงมีคุณสมบัติในการแก้คัดจมูกตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการหวัด เช่น ไอ เจ็บคอ และคัดจมูกได้
บรรเทาอาการหวัดและไข้หวัดใหญ่ ขิงมีสรรพคุณแก้คัดจมูกตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการหวัดและไข้หวัดใหญ่ เช่น อาการไอ เจ็บคอ และคัดจมูก
บรรเทาปัญหาระบบย่อยอาหาร ขิงช่วยบรรเทาปัญหาระบบย่อยอาหาร เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องอืด และคลื่นไส้ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารจากอาหารได้ดีขึ้นอีกด้วย
ช่วยลดอาการปวดข้อและการอักเสบ อาการปวดข้อและปวดกล้ามเนื้อมักจะรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูหนาว ขิงมีสารจิงเจอรอล (Gingerols) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถลดอาการปวดกล้ามเนื้อและโรคข้ออักเสบได้ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากขิงสามารถลดอาการปวดเข่าและบรรเทาอาการโรคข้ออักเสบได้
ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ขิงมีคุณสมบัติในการทำให้ร่างกายอบอุ่นจากภายในด้วยการปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต ซึ่งสามารถช่วยลดอาการมือเท้าเย็นและป้องกันปัญหาการไหลเวียนโลหิต ผู้อ่านสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ได้ใน หน้าสุขภาพ ฉบับวันที่ 30 พฤศจิกายน
4 โรคที่ต้องระวังหากมีอาการปวดขาเรื้อรังไม่หายสักที
ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดขาเรื้อรังหรือเฉียบพลัน จำเป็นต้องมีสาเหตุที่ชัดเจน การเข้าใจสาเหตุจะช่วยให้วิธีการรักษามีประสิทธิภาพ สาเหตุของอาการปวดบางสาเหตุถือเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง
อาการปวดขาอาจเป็นแบบตื้อๆ หรือรุนแรงก็ได้ บางกรณีอาจปวดเฉียบพลันและรุนแรง ในขณะที่บางกรณีอาจปวดเรื้อรัง กุญแจสำคัญในการบรรเทาอาการปวดคือการหาสาเหตุ
อาการปวดน่องเรื้อรังไม่หาย มีอาการบวมและรู้สึกร้อนที่ผิวหนัง มักเกิดจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
อาการปวดขาเรื้อรังที่ไม่หายอาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้:
โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายเกิดขึ้นเมื่อคราบพลัคสะสมตัวในผนังหลอดเลือดแดง ปิดกั้นการไหลเวียนเลือดไปยังขา การไหลเวียนเลือดที่อุดตันนี้ทำให้เกิดอาการปวด โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนไหว อาการอื่นๆ ได้แก่ ตะคริวที่ขา ชา หรืออ่อนแรง
การกดทับเส้น ประสาท เส้นประสาทที่ถูกกดทับจะทำให้เกิดอาการชาและรู้สึกเสียวซ่า ตามมาด้วยอาการปวด หากเส้นประสาทไซแอติกถูกกดทับ อาการปวดจะแผ่ไปทั่วขา
สาเหตุทั่วไปของการกดทับเส้นประสาทไซแอติกคือหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือภาวะกระดูกสันหลังตีบตัน อาการทั่วไป ได้แก่ อาการคัน ชา และปวดร้าวลงขา เนื้อหาถัดไปของบทความนี้จะเผยแพร่ใน หน้าสุขภาพ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน
วิจัยพบประโยชน์ของการซาวข้าวก่อนหุง
ข้าวเป็นอาหารหลักในหลายประเทศ การซาวข้าวถือเป็นส่วนสำคัญของการหุงข้าว การซาวข้าวจะทำให้ข้าวสะอาดขึ้น ช่วยขจัดสิ่งสกปรก แมลง และแกลบที่เหลืออยู่ การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ยังค้นพบประโยชน์ใหม่ๆ ของการซาวข้าวอีกด้วย
การซาวข้าวช่วยชะล้างสิ่งสกปรก แกลบ และแมลงออกไป
การซาวข้าวเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ในการหุงข้าว หลายคนเชื่อว่าการซาวข้าวก่อนหุงข้าวจะช่วยลดปริมาณแป้งในข้าว ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งหมด เพราะเมื่อซาวข้าว น้ำจะกลายเป็นสีขาวขุ่น งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าแป้งอิสระ หรือที่รู้จักกันในชื่ออะมิโลส จะเกาะติดผิวเมล็ดข้าว แป้งปริมาณนี้เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการสีข้าวเพื่อแยกเปลือกออกจากเมล็ดข้าว
งานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อเร็วๆ นี้โดยมหาวิทยาลัยธุรกิจและเทคโนโลยีปักกิ่ง (ประเทศจีน) ได้เปรียบเทียบประโยชน์ของการซาวข้าวหลังหุงระหว่างข้าวสามประเภท ได้แก่ ข้าวเหนียว ข้าวขาวเมล็ดกลาง และข้าวหอม โดยข้าวแต่ละประเภทถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ได้แก่ ข้าวไม่ซาว ข้าวล้างสามครั้ง และข้าวล้างสิบครั้ง
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการซาวข้าวหรือไม่ซาวข้าวไม่ได้ส่งผลต่อความเหนียวและความยืดหยุ่นของเมล็ดข้าวหลังการหุง เพราะความเหนียวและความยืดหยุ่นของเมล็ดข้าวไม่ได้ขึ้นอยู่กับแป้งที่ผิว แต่ขึ้นอยู่กับแป้งอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่าอะไมโลเพกติน ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างการหุงข้าว เริ่มต้นวันใหม่ด้วยข่าวสารสุขภาพ เพื่ออ่านบทความนี้เพิ่มเติม!
ลิงค์ที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)