ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารกลางเวียดนาม ระบุว่า ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เงินฝากของครัวเรือนในระบบธนาคารพาณิชย์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 6.64 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี ดังนั้น หลังจากที่เงินฝากของครัวเรือนในระบบธนาคารพาณิชย์ลดลงในเดือนแรกของปี เงินฝากของครัวเรือนจึงกลับมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน เงินฝากจากองค์กรและธุรกิจลดลงอย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มนี้มีเงินฝากในระบบธนาคาร 6.52 ล้านล้านดอง ลดลง 4.66% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
การตกต่ำของภาคธุรกิจทำให้เงินฝากทั้งหมดที่ไหลเข้าสู่ระบบในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงเล็กน้อย จากกว่า 13.17 ล้านล้านดองเมื่อสิ้นเดือนมกราคม เหลือ 13.16 ล้านล้านดอง
ปีนี้ อัตราการระดมเงินฝากของธนาคารต่างๆ ชะลอตัวลงอย่างมาก รายงานทางการเงินระบุว่า ณ สิ้นไตรมาสแรก ธนาคารหลายแห่งมีอัตราการเติบโตสูงสุดของเงินฝากลูกค้าในไตรมาสแรกของปี 2566 ที่ 8-19% แต่ในปีนี้กลับเพิ่มขึ้นเพียงไม่ถึง 5% จำนวนธนาคารที่มียอดเงินฝากลดลงในช่วงสามเดือนแรกของปีก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ล่าสุดธนาคารพาณิชย์มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพร้อมๆ กัน แต่ค่าเฉลี่ยยังต่ำอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี
นายดิงห์ ดึ๊ก กวาง กรรมการผู้จัดการฝ่ายซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ธนาคารยูโอบี เวียดนาม มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากจะเป็นการดำเนินตามแนวโน้มของตลาดต่างประเทศแล้ว ยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างสมดุลผลตอบแทนจากช่องทางการลงทุนอื่นๆ ในตลาด เช่น ทองคำ หุ้น เป็นต้น นอกจากนี้ เขายังคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะเพิ่มขึ้น 0.5-1% ในเงื่อนไขต่างๆ ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่สินเชื่อเริ่มฟื้นตัว
ธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม (State Bank of Vietnam) ระบุว่า ณ สิ้นเดือนเมษายน อัตราการเติบโตของสินเชื่อในระบบโดยรวมยังคงต่ำกว่า 2% ซึ่งต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนๆ ผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารยูโอบี เวียดนาม ให้ความเห็นว่าไม่มีปัญหาสภาพคล่องในระบบ และไม่มีความกังวลเกี่ยวกับความจำเป็นในการระดมทุนในอัตราดอกเบี้ยสูง หรือการพลิกกลับของนโยบายการเงิน นั่นคือ จากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันไปสู่นโยบายการเงินแบบเข้มงวดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและพยุงอัตราแลกเปลี่ยน
วัณโรค (ตาม VnExpress)แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)