เหล่าทหารผ่านศึกผู้ซึ่งได้ร่วมเป็นสักขีพยานและประสบกับช่วงเวลาแห่งวีรกรรมอันแสนสาหัส จะมาร่วมแบ่งปันความทรงจำอันมิอาจลืมเลือน เรื่องราวแต่ละเรื่องล้วนเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เป็นบทเรียนอันล้ำค่าสำหรับคนรุ่นปัจจุบัน
“The Fire and Flower Time” เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการการกุศล “Preserving V” ซึ่งจัดทำโดยนักศึกษามหาวิทยาลัย FPT ฮานอย ด้วยความปรารถนาที่จะเก็บรักษาความทรงจำอันสวยงามและเชิดชูเรื่องราวของคนรุ่นก่อน ซึ่งเป็นผู้ที่เสียสละวัยเยาว์และเลือดเนื้อเพื่อ สันติภาพ ในปัจจุบัน
การแสดงที่จัดฉากอย่างประณีตบรรจงสอดแทรกเรื่องราวต่างๆ ไว้ด้วยกัน ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งยุคสมัยที่ผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้าร่วมของสโมสร FPTU Vovinam และสโมสรมวย FMUC FPTU ไม่เพียงแต่จะนำเสนอการแสดงศิลปะการต่อสู้อันทรงพลังเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่เข้มแข็ง อันเป็นคุณค่าที่เชื่อมโยงกับความมุ่งมั่นและความตั้งใจอันแน่วแน่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรากฏตัวของแขกรับเชิญลึกลับจะสร้างความประหลาดใจให้กับรายการ นอกจากนี้ นักศึกษาจะมอบของขวัญแสดงความขอบคุณแก่เหล่าทหารผ่านศึกเพื่อเป็นการขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับการเสียสละและการมีส่วนร่วมของพวกเขา
“The Fire and Flower Time” เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการการกุศล “Preserving V” ซึ่งจัดทำโดยนักศึกษามหาวิทยาลัย FPT ฮานอย ด้วยความปรารถนาที่จะเก็บรักษาความทรงจำอันสวยงามและเชิดชูเรื่องราวของคนรุ่นก่อน ซึ่งเป็นผู้ที่เสียสละวัยเยาว์และเลือดเนื้อเพื่อสันติภาพในปัจจุบัน
ฟาม เลอ ไม ชี หัวหน้าคณะกรรมการจัดงาน ได้กล่าวถึงชื่อโครงการ "Preserving V" ว่า "V" ไม่ใช่แค่ตัวอักษร แต่ยังหมายถึง "รัศมีแห่งยุคสมัย" สัญลักษณ์แห่งคุณค่าอันเป็นอมตะ; "Victory - ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของทั้งชาติ"; "Veterans" - ทหารผ่านศึก ผู้ซึ่งอุทิศตนเพื่อปกป้องประเทศชาติ; "Vietnam" - ชื่ออันเปี่ยมด้วยความรักและความภาคภูมิใจของปิตุภูมิ โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมการกุศลเท่านั้น แต่ยังมีพันธกิจที่ยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือการเชื่อมโยงอดีตเข้ากับปัจจุบัน เผยแพร่จิตวิญญาณแห่งความกตัญญู และสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ภายใต้กรอบโครงการ เยาวชนได้ดำเนินโครงการ "Freedom Recall" โดยจัดทัวร์พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ การทหาร เวียดนาม (ฮานอย) ให้กับทหารผ่านศึกจากศูนย์พยาบาลทหารผ่านศึกสงครามคิมบัง การเดินทางครั้งนี้เป็นโอกาสให้ทหารผ่านศึกได้หวนรำลึกถึงสิ่งของต่างๆ ที่มีความทรงจำในวัยเยาว์ ช่วงเวลาแห่งระเบิดและกระสุนปืน พวกเขากลับมาสู่ภาพลักษณ์อันภาคภูมิใจและกล้าหาญอีกครั้ง สวมเครื่องแบบทหาร หมวกรูปดาว และพกปืนออกรบ
คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้ AI เพื่อฟื้นฟูเนื้อหาสารคดี สร้างเอกสารทางประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่ และสร้างองค์ประกอบต่างๆ ในกระบวนการออกแบบ
ประเด็นสำคัญคือ ในโครงการ "Saving V" เยาวชนให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้ AI เพื่อบูรณะเอกสารสารคดี สร้างสรรค์เอกสารทางประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่ และสร้างองค์ประกอบต่างๆ ในกระบวนการออกแบบ ที่สำคัญ เงินทุนทั้งหมดของโครงการมาจากการขายระดมทุนและการขอรับการสนับสนุนผ่านช่องทางบริจาค
ไม ชี ระบุว่า ปัจจุบันโครงการ "ลั่ว กัว 5" มุ่งเน้นไปที่ทหารผ่านศึกเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต ในอนาคต โครงการนี้สามารถขยายไปยังญาติพี่น้อง อดีตอาสาสมัครเยาวชน และผู้ที่มีส่วนร่วมในการปฏิวัติได้ เยาวชนเหล่านี้ยังตั้งเป้าที่จะร่วมมือกับหน่วยงานด้านการศึกษา ธุรกิจ และสื่อมวลชน เพื่อจัดกิจกรรมเชิงลึกมากขึ้น เช่น ทอล์คโชว์ นิทรรศการโบราณวัตถุสงครามดิจิทัล หรือพอดแคสต์ที่บอกเล่าเรื่องราวของพยานบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์
“เราสามารถสร้างห้องสมุดความทรงจำดิจิทัลที่จัดเก็บเรื่องราว รูปภาพ และวิดีโอสารคดีของทหารผ่านศึก ซึ่งจะช่วยอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์ไว้ได้ยาวนานและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) ช่วยให้คนรุ่นใหม่ “สัมผัส” สนามรบเก่าผ่านมุมมองของบรรพบุรุษ และสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น” ไม ชี กล่าว
ตามที่หัวหน้าคณะกรรมการจัดงานกล่าวว่าด้วยโครงการ "Preserving V" คนรุ่นเยาว์หวังที่จะเผยแพร่โครงการนี้ให้กับ 3 กลุ่ม: สำหรับทหารผ่านศึก ไม่เพียงแต่การสนับสนุนด้านวัตถุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดูแลด้านจิตวิญญาณ ช่วยให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับการรับฟังและเคารพ สำหรับคนรุ่นใหม่ ถือเป็นโอกาสที่จะได้รับความเข้าใจประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยปลุกเร้าความรักชาติและความรับผิดชอบต่อสังคม สำหรับสังคม ถือเป็นการสร้างขบวนการแสดงความกตัญญูทางประวัติศาสตร์ที่แข็งแกร่ง ช่วยรักษาคุณค่าดั้งเดิมในยุคดิจิทัล
ที่มา: https://toquoc.vn/thoi-ca-hoa-lua-the-he-tre-tri-an-cac-thuong-binh-2025032310294143.htm
การแสดงความคิดเห็น (0)