เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ผู้นำที่รับผิดชอบสาขามหาวิทยาลัยดงอาใน ดั๊กลัก กล่าวว่า หน่วยงานดังกล่าวได้ประชุมกับหน่วยงานตำรวจในพื้นที่ และขอให้ตำรวจเข้าแทรกแซงกรณีการแขวนป้ายทวงหนี้ที่ส่งผลกระทบต่อโรงเรียน
มหาวิทยาลัยด่งอา สาขาดักลัก ได้แจ้งความกับตำรวจให้เร่งสอบสวนผู้โพสต์ป้ายทวงหนี้ลงโซเซียลมีเดีย จนกระทบต่อมหาวิทยาลัย (ภาพ: อุ้ยเหงียน)
ผู้นำรายนี้ยืนยันว่ามีผู้รับเหมาเข้ามาทำสัญญาก่อสร้างโครงการในโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนยังไม่ชำระเงินครบถ้วน เนื่องจากหน่วยงานนี้ไม่มีเอกสารและขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้องตามระเบียบครบถ้วน
ก่อนเทศกาลตรุษจีน โรงเรียนได้จ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้รับเหมาไปแล้วกว่า 200 ล้านดอง และเมื่อวานนี้ (25 มีนาคม) ได้มีการประชุมเพื่อขอเอกสารทั้งหมด ทางโรงเรียนจะจ่ายเงินจำนวนกว่า 560 ล้านดองทันที ในกรณีนี้ ทางโรงเรียนไม่ได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน แต่ไม่ได้จ่ายเงินเพราะผู้รับเหมามีเอกสารไม่เพียงพอ" ตัวแทนโรงเรียนกล่าว
ตามที่ผู้นำโรงเรียนแจ้งไว้ ในส่วนของการเงินก่อสร้าง โรงเรียนมีผู้รับเหมาเพียงสองรายเท่านั้น ผู้รับเหมารายหนึ่งได้รับการจัดการตามรายละเอียดข้างต้นแล้ว และอีกรายหนึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างโครงการอยู่
ผู้รับเหมาทั้งหมดแจ้งว่าไม่ได้ติดป้ายทวงหนี้และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย จากภาพจากกล้องวงจรปิด เราพบว่าการติดป้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ในช่วงเย็นของวันที่ 23 มีนาคม และเช้าของวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ของโรงเรียน ภาพการทวงหนี้ถูกโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดความคิดเห็นเชิงลบต่อสาธารณชน" ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าว
เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สาขามหาวิทยาลัยดงอาได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานตรวจสอบผู้ที่แขวนป้ายดังกล่าว รวมทั้งโพสต์ป้ายทวงหนี้ที่หน้าประตูโรงเรียนลงในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดความวุ่นวายและความสับสนในโรงเรียน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเย็นวันที่ 23 มีนาคม มีบัญชี Facebook บางส่วนโพสต์ภาพป้ายทวงหนี้ที่แขวนอยู่หน้าประตูสาขาของมหาวิทยาลัยดงอา ในเขตดักลัก บน Facebook
ผู้รับเหมารายหนึ่งกล่าวว่าโรงเรียนมีหนี้หลายร้อยล้านดอง และสัญญาว่าจะชำระหนี้ในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าไม่ได้แขวนป้ายเรียกร้องหนี้ของโรงเรียนตามที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย
ตามบันทึกของผู้สื่อข่าวในช่วงบ่ายของวันที่ 24 มีนาคม ข้อมูลการติดตามทวงหนี้ได้ถูกลบออกจากประตูโรงเรียนแล้ว หัวหน้าเขตตันอันยืนยันว่าเขตได้รับข้อมูลแล้ว และกำลังส่งหน่วยงานเฉพาะทางไปหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้กับผู้บริหารโรงเรียน
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)