ตัวแทนศูนย์ RAR และ OCB ลงนามสัญญาติดตั้งบริการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน VNeID บนแอปพลิเคชัน OCB OMNI
ในฐานะเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมธนาคารถือเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลมาโดยตลอด โดยส่งเสริมการชำระเงินแบบไร้เงินสดเพื่อมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ประชาชน เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 ธนาคารแห่งรัฐเวียดนามได้ประสานงานกับ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ เพื่อลงนามในแผนเลขที่ 01/KHPH-BCA-NHNNVN เกี่ยวกับการดำเนินงานในโครงการ 06 ด้วยเหตุนี้ สถาบันสินเชื่อจึงได้เริ่มดำเนินการและนำคำแนะนำของรัฐบาลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการธนาคารมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว เพื่อบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างครอบคลุม
OCB เป็นหนึ่งในธนาคารผู้บุกเบิกด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลตั้งแต่ช่วงแรกๆ ในปี 2561 ธนาคารได้เปิดตัว OCB OMNI ดิจิทัลแบงก์กิ้งเวอร์ชันแรก ทันทีที่เปิดตัวสู่ตลาด แอปพลิเคชันนี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างสูงจากผู้ใช้ในด้านความสะดวก ความรวดเร็ว ความเป็นส่วนตัว และเหนือสิ่งอื่นใดคือความปลอดภัย
หลังจากเปิดตัว OCB OMNI เวอร์ชันใหม่ 3 เวอร์ชัน พร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งอินเทอร์เฟซและฟีเจอร์ต่างๆ ในเดือนพฤษภาคม 2567 ธนาคารได้เปิดตัว OCB OMNI เวอร์ชันล่าสุดอย่างเป็นทางการ โดยร่วมมือกับ Backbase บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำ ของโลก ปัจจุบัน แอปพลิเคชันนี้ได้สร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่มีบริการสาธารณูปโภคมากกว่า 200 รายการบนแพลตฟอร์มเดียว ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 อัตราการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม โดยจำนวนธุรกรรมบน OCB OMNI เพิ่มขึ้น 97%, CASA เพิ่มขึ้น 28% และมูลค่าการซื้อขายเงินฝากออมทรัพย์ออนไลน์เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567
ในกระบวนการดำเนินกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ธนาคารออมสิน (OCB) ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ข้อมูลยืนยันตัวตนที่ถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาบริการทางการเงินดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ธนาคารจึงได้ริเริ่มสร้างความร่วมมือกับศูนย์ RAR ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะด้านข้อมูลประชากรและการระบุตัวตนของพลเมือง สังกัดกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ เพื่อนำบริการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน VNeID มาประยุกต์ใช้อย่างเข้มแข็งบนแอปพลิเคชัน OCB OMNI เพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการดำเนินโครงการ 06 ให้สำเร็จ
ตามสัญญาที่ลงนาม OCB และ RAR Center จะร่วมกันดำเนินการดังต่อไปนี้: การบูรณาการข้อมูลระบุตัวตนพลเมืองอิเล็กทรอนิกส์เข้าในกระบวนการเปิดบัญชีและระบุตัวตนลูกค้า การเปรียบเทียบข้อมูลลูกค้าอย่างแม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทางธุรกิจ มอบความสะดวกและความรวดเร็วที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า
การลงนามระหว่าง OCB และ RAR Center คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของลูกค้าในด้านความรวดเร็วและความปลอดภัยที่เหนือกว่า
ในพิธี คุณ Pham Hong Hai ผู้อำนวยการใหญ่ OCB ได้เน้นย้ำว่าการลงนามครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างแข็งแกร่งในการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนและการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ในภาคการเงินและการธนาคาร ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการบรรลุยุทธศาสตร์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลแห่งชาติ และการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล และสังคมดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบูรณาการบริการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน VNeID เข้ากับกระบวนการธุรกรรมของ OCB คาดว่าจะสร้างคุณค่าที่นำไปใช้ได้จริง ช่วยยกระดับความปลอดภัยและความปลอดภัยของข้อมูล และลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง ทั้งธนาคารและลูกค้าสามารถลดความซับซ้อนของขั้นตอนการบริหาร ประหยัดเวลาและต้นทุน ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการธนาคารออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพกเอกสารยืนยันตัวตนจำนวนมาก
ในงานนี้ พันเอก ตรัน ฮอง ฟู รองอธิบดีกรมตำรวจปกครองเพื่อความสงบเรียบร้อยทางสังคม ได้กล่าวชื่นชมความพยายามของศูนย์ตำรวจปกครอง (RAR Center) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (OCB) ในการนำบริการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ และหวังว่า OCB จะมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การดำเนินงานที่ราบรื่น มั่นคง ความปลอดภัย และความมั่นคงของข้อมูลให้สอดคล้องกับกฎหมาย และการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ ประสานงานอย่างใกล้ชิดในการดำเนินการตามมาตรการตรวจสอบและควบคุมธุรกรรมที่ผิดปกติ เพื่อป้องกันการฉ้อโกงทางการเงิน การฟอกเงิน และการละเมิดกฎหมายอื่นๆ ขณะเดียวกัน ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ บริการ และแอปพลิเคชันที่ใช้ข้อมูลประชากร การระบุตัวตนพลเมือง การระบุตัวตน และการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตอบสนองความต้องการของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับภาคการชำระเงิน เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างแอปพลิเคชันเทคโนโลยีและกิจกรรมทางธุรกิจ
ความร่วมมือระหว่าง OCB และศูนย์ RAR อีกครั้งหนึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของ OCB ในการใช้เทคโนโลยีและพัฒนาคุณภาพบริการ ขณะเดียวกัน ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศข้อมูลที่ทันสมัย โปร่งใส ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และเพื่อเป็นหลักประกันอธิปไตยด้านข้อมูลของประเทศ
ที่มา: https://ocb.com.vn/vi/tin-tuc-su-kien/tin-tuc/ocb-hop-tac-cung-trung-tam-du-lieu-quoc-gia-thuc-hien-xac-thuc-dien-tu-qua-vneid
การแสดงความคิดเห็น (0)