ตับร้อนคืออะไร อันตรายหรือไม่?
โรคตับร้อน (หรือที่เรียกว่าภาวะตับวายเฉียบพลัน) เป็นโรคที่กลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย จึงไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการรักษาเพียงครั้งเดียว ภาวะตับร้อนกลับมาเป็นซ้ำส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตและสุขภาพของผู้ป่วย ยิ่งไปกว่านั้น หากไม่ได้รับการตรวจพบแต่เนิ่นๆ และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โรคจะลุกลามไปสู่ภาวะตับวายเรื้อรัง ส่งผลให้เกิดโรคตับอักเสบ และอาจถึงขั้นเป็นมะเร็งตับได้
ภาพประกอบ
สัญญาณร่างกายเตือนตับร้อน
อาการแดง คัน และลมพิษ
มีผื่นแดงหรือชมพูขึ้นบนผิวหนัง ทำให้เกิดอาการคันและรู้สึกเสียวซ่า อาการของตับร้อนนี้จะปรากฏอยู่สองสามชั่วโมง และจะค่อยๆ หายไปเมื่ออุณหภูมิร่างกายคงที่อีกครั้ง
โรคดีซ่าน
ตับร้อน ตับทำงานบกพร่อง ทำให้เม็ดสีน้ำดีบิลิรูบินสะสมในเลือด ทำให้ผิวหนังเหลือง
การเปลี่ยนแปลงของอุจจาระและปัสสาวะ
ผู้ที่เป็นโรคตับร้อน มักจะมีปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้มและอุจจาระเป็นสีเงิน
กลิ่นปาก
ตับที่เสียหายจะผลิตแอมโมเนียซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดกลิ่นปากในปริมาณมาก
นอกจากนี้ตับร้อนยังทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ริมฝีปากแห้ง ริมฝีปากแดง เหงือกเลือดออกผิดปกติ นอนไม่หลับตอนกลางคืน เป็นต้น
4 นิสัยที่ทำให้ตับร้อน หลายคนเป็น
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญ ทางการแพทย์ ระบุว่ามีหลายปัจจัยที่อาจทำให้เกิดความร้อนในตับ ได้แก่:
ภาพประกอบ
การรับประทานอาหาร ที่ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์
การรับประทานอาหารที่มีกากใยและวิตามินน้อยหรือรับประทานอาหารรสจัด เผ็ดจัด หวานจัด ฯลฯ มากเกินไป จะทำให้มีสารพิษสะสมในตับเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากนอนดึก
การนอนดึก ทำงานหนักเกินไป และอยู่ภายใต้แรงกดดันจากงานอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดภาวะตับวายเฉียบพลันได้
การใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด
การใช้ยาปฏิชีวนะหลายชนิดที่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อตับจะทำให้ตับร้อนและทำให้ตับทำงานผิดปกติเป็นเวลานาน
ใช้สารกระตุ้น
การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำทำให้ตับไม่สามารถกำจัดสารพิษและสารพิษที่สะสมได้
สาเหตุอื่นๆ ของอาการตับร้อน ได้แก่ การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษ อากาศร้อน เป็นต้น
คนเป็นโรคตับร้อนควรกินอะไรเพื่อให้ฟื้นตัวเร็ว?
ผู้ที่มีอาการตับร้อนต้องดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย กำจัดสารพิษออกจากร่างกายผ่านทางเหงื่อและปัสสาวะ ขณะเดียวกันก็ช่วยต่อสู้กับการเกิดออกซิเดชันของเซลล์อีกด้วย
นอกจากน้ำกรองแล้ว ผู้ป่วยยังสามารถใช้น้ำสควอช น้ำข้าวกล้อง ชาเขียว ชาสมุนไพร ฯลฯ ซึ่งมีประโยชน์ต่อตับอีกด้วย
คุณควรทานผัก ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้รสเปรี้ยว ถั่ว น้ำมันมะกอก โยเกิร์ต ฯลฯ มากๆ อาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ เพื่อช่วยฟื้นฟูและปกป้องเซลล์ตับที่อักเสบ/เสียหาย
ภาพประกอบ
คนเป็นโรคตับร้อนควรเลี่ยงอะไรบ้าง?
ผู้ที่เป็นโรคตับร้อน ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารที่มีเกลือสูง อาหารจานด่วน อาหารกระป๋อง เนื้อแดง เบียร์ แอลกอฮอล์ หน่อไม้สด เป็นต้น อาหารเหล่านี้มีส่วนผสมที่สามารถเปลี่ยนเป็นสารที่เป็นอันตรายต่อตับได้ เช่น ไซยาไนด์ (พบในหน่อไม้) หรือไนไตรต์ (พบในอาหารรสเค็ม) เป็นต้น ซึ่งจะไปสร้างแรงกดดันให้กับตับมาก ทำให้ตับอ่อนล้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ มากมาย
3 วิธีป้องกันโรคตับร้อนในวันอากาศร้อน
เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะตับร้อนโดยเฉพาะและโรคตับโดยทั่วไป คุณควร:
สร้างวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี
รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งและในขนาดที่ถูกต้อง
การตรวจคัดกรองโรคตับเป็นประจำ
การตรวจคัดกรองโรคตับมักทำโดยการตรวจเลือด ควรทำการตรวจนี้เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคตับอักเสบบี โรคตับอักเสบซี ภาวะไขมันพอกตับ ภาวะแทรกซ้อนของโรคซิสติกไฟโบรซิส ฯลฯ
การฉีดวัคซีน
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันไวรัสตับอักเสบเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ตับต่อสู้กับโรคตับอื่นๆ ได้อีกหลายชนิด เช่น โรคตับร้อน
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)