ข้อมูลข้างต้นนี้ได้รับการกล่าวโดยรองอธิบดีกรมแรงงานสัมพันธ์และค่าจ้าง กระทรวงแรงงาน ทหารผ่านศึก และกิจการสังคม นายตง วัน ไหล ในช่วงบ่ายของวันที่ 17 ตุลาคม
นายไหล กล่าวว่า การประชุมสภาค่าจ้างแห่งชาติคาดว่าจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีนี้ จึงอาจไม่สามารถปรับค่าจ้างขั้นต่ำได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
กระทรวงแรงงาน ผู้พิการ และกิจการสังคม ได้รายงานต่อ รัฐบาล ให้เลื่อนการยื่นแผนการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำออกไปเป็นปลายปีนี้ คาดว่าจะมีการเจรจารอบสองในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน หลังจากการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการค่าจ้างแห่งชาติ (National Wage Council) จะบรรลุข้อตกลงและเสนอต่อรัฐบาล ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนี้ ย่อมทำให้ไม่สามารถปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำได้ในต้นปีหน้าอย่างแน่นอน” นายไหลกล่าว
การประชุมสภาค่าจ้างแห่งชาติ ครั้งที่ 1 (ภาพ: เหงียน เซิน)
ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนสิงหาคม คณะกรรมการค่าจ้างแห่งชาติได้จัดการประชุมครั้งแรกเพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละภูมิภาคในปี 2567
เมื่อสิ้นสุดการประชุมครั้งแรกในเช้าวันที่ 9 สิงหาคม คณะกรรมการค่าจ้างแห่งชาติเห็นชอบที่จะจัดการประชุมครั้งต่อไปในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 แทนที่จะเป็นไตรมาสที่ 3 ตามปกติ
ในการประชุม ตัวแทนจากฝ่ายลูกจ้าง นายจ้าง... ได้นำเสนอหลักเกณฑ์และระดับการเสนอปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละภูมิภาคในปี 2567 โดยพื้นฐานแล้ว สมาชิกทุกคนต่างร่วมแบ่งปันความยากลำบากของภาคธุรกิจ ร่วมแบ่งปันชีวิตของคนงาน คนงาน และรายได้ที่ไม่รับประกันมาตรฐานการครองชีพขั้นต่ำ
ฝ่ายเทคนิคเสนอให้ปรับขึ้นเงินเดือนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 หรือ 7 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป ระดับการขึ้นเงินเดือนที่เสนอเป็นไปตามหลักการที่ว่าค่าจ้างขั้นต่ำต้องเท่ากับหรือสูงกว่ามาตรฐานการครองชีพขั้นต่ำ
สหภาพฯ ต้องการให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำในปี 2567 เพิ่มขึ้น 5-6%
ก่อนการประชุม สหภาพแรงงานได้ทำการสำรวจผู้ประกอบการ 200 ราย ใน 6 จังหวัดและเมือง ผลการสำรวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 75% ระบุว่ารายได้ปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม 17.3% ยังต้องกู้ยืมเงินเพื่อใช้จ่าย
จากการสำรวจของสหภาพฯ พบว่าคนงานต้องการเพิ่มเงินเดือนตั้งแต่ต้นปี 2567 ขึ้นมากกว่าร้อยละ 11
ลิงค์ที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)