ประโยชน์ต่อสุขภาพหลักๆ ของการบริโภคผลไม้สีแดง
ป้องกันมะเร็งบางชนิด
เนื่องจากผลไม้สีแดงอุดมไปด้วยวิตามินซี แอนโธไซยานิน และคาเทชิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ต่อสู้กับอนุมูลอิสระส่วนเกิน ผลไม้สีแดงจึงปกป้องเซลล์ที่แข็งแรงในร่างกายและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งกระเพาะอาหาร
หลีกเลี่ยงโรคเบาหวาน
ผลไม้สีแดงมีปริมาณไฟเบอร์สูงซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลจากอาหาร ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด และป้องกันภาวะดื้อต่ออินซูลินและโรคเบาหวาน
ช่วยลดน้ำหนัก
ผลไม้สีแดงมีดัชนีน้ำตาลต่ำ เนื่องจากมีไฟเบอร์ในปริมาณที่ดี ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดความอยากอาหารระหว่างมื้ออาหาร จึงช่วยลดน้ำหนักได้
นอกจากนี้ผลไม้สีแดงยังมีแคลอรี่ต่ำอีกด้วย จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีในการรวมไว้ในอาหารลดน้ำหนัก
ป้องกันการแก่ก่อนวัย
เนื่องจากเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง จึงช่วยสร้างคอลลาเจนซึ่งมีความสำคัญในการต่อสู้กับผิวหย่อนคล้อยและป้องกันการเกิดริ้วรอย
นอกจากนี้ผลไม้สีแดง เช่น ทับทิม ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ที่ดีในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันการแก่ก่อนวัยได้
แก้ท้องผูก
ผลไม้สีแดงอุดมไปด้วยเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งเป็นเส้นใยชนิดหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ตามธรรมชาติ ช่วยต่อสู้กับอาการท้องผูก
ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
ผลไม้สีแดงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาสุขภาพหลอดเลือดแดง ส่งเสริมการผ่อนคลายของหลอดเลือด และอำนวยความสะดวกในการไหลเวียนโลหิต ป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เช่น หลอดเลือดแดงแข็ง หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง
หลีกเลี่ยงโรคระบบประสาทเสื่อม
เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบจำนวนมาก เบอร์รี่จึงช่วยปกป้องเซลล์ของระบบประสาทส่วนกลางจากการอักเสบและอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดโรคทางระบบประสาทเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และภาวะสมองเสื่อม
ช่วยควบคุมความดันโลหิต
ผลไม้สีแดงมีโพแทสเซียมในปริมาณที่ดี ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ทำหน้าที่กำจัดโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ จึงช่วยควบคุมความดันโลหิตได้
นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในผลเบอร์รี่ยังช่วยให้หลอดเลือดแดงแข็งแรงและผ่อนคลายมากขึ้น ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และช่วยป้องกันความดันโลหิตสูงได้
ลดคอเลสเตอรอล
เนื่องจากผลเบอร์รี่อุดมไปด้วยแอนโธไซยานิน เคอร์ซิติน และวิตามินซี ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ผลไม้สีแดงจึงช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระส่วนเกิน ป้องกันการเกิดออกซิเดชันของเซลล์ไขมัน และลดระดับคอเลสเตอรอล "ไม่ดี" LDL และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
สารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในผลไม้สีแดง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของเซลล์ป้องกัน ช่วยต่อสู้กับไวรัส เชื้อรา และแบคทีเรีย และป้องกันการเกิดอาการต่างๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ภูมิแพ้ และหวัด
วิธีรับประทานผลไม้สีแดง
ผลไม้สีแดงสามารถรับประทานดิบๆ เติมลงในโยเกิร์ต และในสูตรอาหารต่างๆ เช่น น้ำผลไม้ สมูทตี้ เยลลี่ ไอศกรีม และมูส นอกจากนี้ ผลไม้สีแดงยังสามารถนำมาชงชาได้อีกด้วย
ผลไม้สีแดงแช่แข็งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการบริโภคในน้ำผลไม้ โยเกิร์ต และสมูทตี้ เนื่องจากการแช่แข็งช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการทั้งหมดไว้ได้และช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ ทำให้สามารถใช้ได้นานถึง 6 เดือน
ที่มา: https://kinhtedothi.vn/loi-ich-cua-trai-cay-mau-do-doi-voi-suc-khoe.html
การแสดงความคิดเห็น (0)