บริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นตกลงที่จะปรับขึ้นค่าจ้างเฉลี่ยมากกว่า 5% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างที่สูงที่สุดในรอบ 34 ปี สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 14 มีนาคม
บริษัทญี่ปุ่นขนาดใหญ่หลายแห่งระบุว่าพวกเขาได้ตอบสนองความต้องการของสหภาพแรงงานในการขึ้นค่าจ้างอย่างครบถ้วนแล้ว
ขณะที่การเจรจาด้านแรงงานประจำปีกำลังจะสิ้นสุดลงในสัปดาห์นี้ บริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งของญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาได้ปรับขึ้นค่าจ้างให้ถึงระดับสูงสุดที่สหภาพแรงงานเรียกร้อง
ตัวอย่างเช่น บริษัทโตโยต้าตกลงที่จะเพิ่มค่าจ้างเป็นระดับที่ต้องการที่ 24,450 เยน/เดือน (4.2 ล้านดอง/เดือน) บริษัทมิตซูบิชิยังได้เพิ่มจำนวนเงินที่ร้องขอเป็นเฉลี่ย 18,000 เยนต่อเดือน
สหภาพแรงงาน Rengo ซึ่งมีสมาชิก 7 ล้านคน เสนอให้ปรับขึ้นค่าจ้างเฉลี่ย 5.46% ในปี 2568 ถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ Rengo เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าจ้างเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มที่จะเป็นการปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 34 ปี
การขึ้นค่าจ้างมักถูกมองว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่สูง ซึ่งส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ยังคงไม่ค่อยมองในแง่ดีนัก โดยกล่าวว่าการขึ้นค่าจ้างอาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค
อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภค ซึ่งรวมราคาอาหารสด เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ในเดือนมกราคมปีนี้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี
ตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของคนญี่ปุ่นที่ใช้จ่ายประหยัดขึ้น นานะ นากายามะ (อายุ 51 ปี) เดินทางจากฮอกไกโดไปโตเกียวเพื่อเข้าร่วมพิธีรับปริญญาของลูกสาวของเธอ อย่างไรก็ตามสามีของเธอตัดสินใจไม่ไปด้วยเพื่อประหยัดเงินเพราะเขาเป็นกังวลว่าเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอาจไม่เพียงพอให้ครอบครัวอยู่ดีมีสุข
ในความเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มค่าจ้างคนงานคือประเด็นสำคัญที่สุด นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะได้สั่งให้ทางการหาวิธีส่งเสริมให้คนขับรถบรรทุกได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้นในสัปดาห์นี้
รัฐบาลโตเกียวยังศึกษาแนวทางที่จะอนุญาตให้บริษัทขนาดเล็กสามารถขึ้นค่าจ้างให้กับคนงานได้
ที่มา: https://thanhnien.vn/lao-dong-nhat-ban-duoc-tang-luong-cao-nhat-trong-hon-3-thap-nien-185250314193031763.htm
การแสดงความคิดเห็น (0)