ยังต่ำกว่าเป้าหมายการเติบโตใหม่
เมื่อวันที่ 6 เมษายน สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงการคลัง ได้ประกาศสถิติเศรษฐกิจและสังคมประจำไตรมาสแรก รายงานระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.93% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีในช่วงปี 2020-2025
นางสาวเหงียน ถิ เฮือง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้แจงว่า ตัวเลขการเติบโตดังกล่าวเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้สำหรับไตรมาสแรกในมติที่ 01 (เป้าหมายการเติบโตของ GDP ทั้งปีอยู่ที่ 6.5 - 7% โดยไตรมาสแรกอยู่ที่ 6.2 - 6.6%) อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่สูงกว่าในมติที่ 25 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 (เป้าหมายการเติบโตของประเทศในปี 2568 คือ 8% ขึ้นไป โดยไตรมาสแรกอยู่ที่ 7.7%) ตัวเลขนี้ถือว่าต่ำกว่า
![]() |
นางสาวเหงียน ถิ เฮือง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติทั่วไป |
ทั้งนี้ ภาคเกษตร ป่าไม้ และประมง ขยายตัวร้อยละ 3.74 มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของมูลค่าเพิ่มรวมของเศรษฐกิจทั้งระบบร้อยละ 6.09 ภาคอุตสาหกรรมและก่อสร้างขยายตัวร้อยละ 7.42 มีส่วนสนับสนุนร้อยละ 40.17 ภาคบริการขยายตัวร้อยละ 7.70 (สูงสุดในรอบ 6 ปี) มีส่วนสนับสนุนร้อยละ 53.74
อัตราการเติบโตของแต่ละภูมิภาค พบว่าภาคการเกษตร ป่าไม้ และประมง ส่วนใหญ่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในไตรมาสแรก การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 2563
อุตสาหกรรมการแปรรูปและการผลิตเป็นแรงกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งหมด โดยมีอัตราการเติบโต 9.28% มีส่วนสนับสนุน 2.33 จุดเปอร์เซ็นต์ อุตสาหกรรมก่อสร้างขยายตัว 7.99% สูงกว่าอัตราการเติบโต 7.57% ในไตรมาสแรกของปี 2567 โดยอุตสาหกรรมเหมืองแร่เพียงอย่างเดียวลดลง 5.76% ลดลง 0.17 จุดเปอร์เซ็นต์
ที่น่าสังเกตคือการเติบโตของภาคการค้าและบริการมีอัตราเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง รายได้รวมยอดขายปลีกสินค้าและบริการผู้บริโภคในเดือนมีนาคม 2568 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 10.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสแรกยอดขายปลีกสินค้าและบริการผู้บริโภครวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
มูลค่าการนำเข้าและส่งออกเพิ่มขึ้น 13.7%
ด้านการนำเข้าและส่งออก มูลค่านำเข้าและส่งออกสินค้ารวมเดือนมีนาคมอยู่ที่ 75,390 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.2 จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสแรกของปี 2568 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้ารวมอยู่ที่ 202,520 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 การนำเข้าเพิ่มขึ้น 17.0% ดุลการค้าสินค้าเกินดุล 3.16 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าอยู่ที่ 102.84 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 10.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อจำแนกตามภูมิภาค ภาคเศรษฐกิจภายในประเทศมีมูลค่า 29,020 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 คิดเป็น 28.2% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ภาคการลงทุนจากต่างชาติ (รวมน้ำมันดิบ) มีมูลค่า 73,820 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 คิดเป็น 71.8%
มูลค่านำเข้าสินค้าเดือนมีนาคมอยู่ที่ 36.88 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 จากเดือนก่อนหน้า ในไตรมาสแรก มูลค่าการนำเข้าสินค้ารวมอยู่ที่ 99,680 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่ภาคเศรษฐกิจภายในประเทศอยู่ที่ 36,780 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.3 ภาคการลงทุนจากต่างชาติมีมูลค่า 62.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15.8%
สำหรับตลาดการนำเข้าและส่งออกสินค้าในไตรมาสแรก สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยมีมูลค่ารวม 31,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จีนเป็นตลาดนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยมีมูลค่าการค้า 38.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา: https://tienphong.vn/วันชาติไต้หวัน-6- ...
การแสดงความคิดเห็น (0)