เมื่อมาถึงเมืองหมังเด็น นักท่องเที่ยวจะได้ชมพันธุ์ไม้พื้นเมืองที่ดูเหมือนจะมีเฉพาะในดาลัตเท่านั้น เช่น ต้นหลิวร้องไห้ ดอกหงอนไก่สีม่วง ดอกซากุระ...
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวฝรั่งเศสได้สำรวจและปลูกป่าสนโบราณกว่า 4,000 เฮกตาร์บนที่ราบสูงในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่แล้ว ทำให้ผู้มาเยือนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงถนนที่นำไปสู่ใจกลางเมืองดาลัต
ป่าสนโบราณมางเด่น (อำเภอคอนพลง จังหวัด คอนตุม ) มีพื้นที่ป่าสนโบราณกว่า 4,000 ไร่ ที่ชาวฝรั่งเศสสำรวจและปลูกไว้บนที่ราบสูง
ป่าดิบชื้นที่หนาแน่นครอบคลุมพื้นที่กว่า 100,000 ไร่ ก่อให้เกิดป่าไม้ปกคลุมมากที่สุดในประเทศถึงร้อยละ 65 ของพื้นที่ทั้งหมด เชื่อมโยงไปด้วยแม่น้ำ ทะเลสาบ ลำธาร น้ำตก... และประชากรเบาบางทำนาขั้นบันได ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์... ทำให้แมงเด่นมีศักยภาพที่เหมาะสมสำหรับ การท่องเที่ยว เชิงนิเวศและพักผ่อนหย่อนใจ
แต่ที่แห่งนี้อาจเป็นดินแดนภูเขาไฟ ก่อตัวเป็นทะเลสาบเล็กใหญ่ 7 แห่ง และดินบะซอลต์สีแดง หนึ่งในนั้นคือ น้ำตกปาซี ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในเมืองมังเด่น เป็นน้ำตกที่เกิดจากธารน้ำขนาดใหญ่ 3 สายไหลมารวมกันเป็นน้ำตก จึงเป็นที่มาของชื่อ ปาซี เช่นกัน
นอกจาก การสำรวจ ภูมิประเทศธรรมชาติแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านที่ยังคงรักษาประเพณีและคุณลักษณะธรรมชาติของชนบทที่ห่างไกลจากตัวเมือง เด็กๆ เล่นกับพืชอย่างไร้เดียงสาและมองคนแปลกหน้าด้วยความตื่นตะลึง
เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ในที่ราบสูงตอนกลาง มังเด็นมีสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่น่าประทับใจมากมาย หนึ่งในนั้นคือรูปปั้นพระแม่แห่งมังเด็น ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบพิธีแสวงบุญทางศาสนา มีตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์และพลังของมือทั้งสองที่ถูกตัดขาด
เดิมทีรูปปั้นพระแม่แห่งแมงเดนถูกแกะสลักเป็นรูปพระแม่แห่งฟาติมาในปี พ.ศ. 2514 แต่ถูกทิ้งร้างในป่าระหว่างสงคราม ในปี พ.ศ. 2547 ระหว่างการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 24 ได้มีการค้นพบรูปปั้นพระแม่ และพระเศียรได้รับการบูรณะใหม่เป็นใบหน้าของสตรีชาวที่ราบสูงตอนกลาง แต่ไม่สามารถบูรณะพระกรทั้งสองข้างได้...
และมีหลักฐานว่าด้วยความรัก เพราะหลงใหลในมังเด็น ชายผู้มีความสามารถคนหนึ่งจึงพาครอบครัวจากลำดงมาอยู่มังเด็น เปิดร้านกาแฟมังเด็นลา (ชาวมังเด็น) หลงใหลในท่อนไม้ ด้นสดด้วยโน้ตดนตรี และร่วมกับลูกสาวทั้ง 5 คน ร้องเพลงอย่างอิสระให้คนแปลกหน้าที่มาดื่มกาแฟสะอาดๆ รสชาติมังเด็นแท้ๆ
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)