ลิปสติกประกอบด้วยส่วนผสมหลักสามอย่าง ได้แก่ ขี้ผึ้ง น้ำมัน และสี ลิปสติกที่ผลิตจะมีสี ความเนียน และความปลอดภัยที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและแหล่งที่มาของส่วนผสม
ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางที่นิยมใช้กันทั่วไป
ขี้ผึ้ง
นี่คือส่วนผสมที่ทำให้ลิปสติกแข็งตัว ขี้ผึ้งบางชนิดที่นิยมใช้ทำลิปสติก ได้แก่ ขี้ผึ้ง ขี้ผึ้งคาร์นัวบา ขี้ผึ้งแคนเดลิลา และขี้ผึ้งลาโนลิน รวมถึงไฮโดรคาร์บอน เช่น พาราฟิน และโอโซเคอไรต์
น้ำมัน
น้ำมันมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น มอบความเรียบเนียน และละลายสีหรือสารที่ละลายน้ำได้อื่นๆ ในลิปสติก น้ำมันที่นิยมใช้มากที่สุดในการผลิตลิปสติกคือน้ำมันละหุ่ง นอกจากนี้ยังมีน้ำมันเมล็ดองุ่น น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะกอก เนยโกโก้ โจโจ้บา ลิโนลิน IPM IPP น้ำมันแร่ น้ำมันพืช...
สีผสมอาหาร
สารให้สีช่วยให้ลิปสติกมีสีสัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สารให้สีอนินทรีย์และสารให้สีอินทรีย์
สีอนินทรีย์ที่นิยมใช้ เช่น เหล็กออกไซด์ TiO2 ZnO ผงไข่มุก เป็นสีที่ไม่ละลายน้ำ ดังนั้นจึงต้องใช้เทคนิคการเตรียมที่เหมาะสมเพื่อให้สีกระจายตัวสม่ำเสมอ
สีออร์แกนิก เช่น สีแดงบีทรูท แอนโทไซยานิน และแลคโตฟลาวิน ละลายน้ำได้ กระจายตัวได้ง่ายแต่ทำให้สีเลอะ ดังนั้นจึงมักนำมาผสมกันเพื่อให้ได้ลิปสติกที่ไม่เลอะแต่ให้สีที่สม่ำเสมอ
นอกเหนือจากส่วนผสมหลักทั้ง 3 อย่างแล้ว ลิปสติกบางชนิดยังมีส่วนผสมดังต่อไปนี้ด้วย:
ในปัจจุบันลิปสติกในท้องตลาดมีหลากหลายสีและหลายแบบ
สารกันบูด
เครื่องสำอางมักต้องการสารกันเสีย สารเหล่านี้ช่วยรักษาอายุของลิปสติก เพราะส่วนผสมจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉลี่ยแล้ว ลิปสติกจะมีอายุการใช้งานเพียง 1 ปีเท่านั้น แต่เมื่อเติมสารกันเสียและสารต้านอนุมูลอิสระลงไป ลิปสติกก็จะใช้งานได้นานขึ้น
สารต้านอนุมูลอิสระ
มีการเติมสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันและขี้ผึ้งเหม็นหืน สารต้านอนุมูลอิสระที่พบบ่อย ได้แก่ วิตามินอี (โทโคฟีรอล), BHA หรือ BHT
สารแต่งกลิ่นรส
น้ำหอมสังเคราะห์มักใช้เพื่อกลบกลิ่นของส่วนผสมทางเคมีในน้ำมัน ขี้ผึ้ง และสีผสมในลิปสติก ผู้ที่มีริมฝีปากแห้งแตกควรจำกัดการใช้ลิปสติกที่มีกลิ่นหอม เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้
มาย อันห์
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)