ดร. หวินห์ ตัน วู (อาจารย์แพทย์แผนโบราณ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์ นครโฮจิมินห์) ระบุว่า ต้นฝรั่งเป็นพืชที่คุ้นเคยกันมานานในชีวิตของชาวเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท ส่วนต่างๆ ของต้นฝรั่ง เช่น ยอดอ่อน ใบฝรั่งอ่อน ผล เปลือก หรือราก ล้วนมีสรรพคุณทางยา ใช้เป็นยาที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย
ใบฝรั่งสดประกอบด้วยน้ำ 82.47% ไขมัน 0.62% โปรตีน 18.53% คาร์โบไฮเดรต 12.74% กรดแอสคอร์บิก (วิตามินซี 103 มิลลิกรัม) และกรดแกลลิก 1,717 มิลลิกรัม ฟลาโวนอยด์ในสารสกัดจากใบฝรั่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียอย่างมีประสิทธิภาพ และเคอร์ซิตินมีฤทธิ์ต้านอาการท้องเสียอย่างมีประสิทธิภาพ โพลีแซ็กคาไรด์ในใบฝรั่งสามารถใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารและการรักษาโรคเบาหวานได้" ดร. วู กล่าว
ใบฝรั่งมีฤทธิ์อะไรบ้าง?
ใบฝรั่งช่วยแก้ท้องเสีย
การใช้ใบฝรั่งที่นิยมใช้กันคือการรักษาโรคท้องร่วง ใบฝรั่งและยอดฝรั่งอ่อนมีสารแทนนินและสารสกัดบางชนิดที่ยับยั้งการทำงานของแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส และอีโคไล จึงช่วยลดอาการท้องร่วงได้ นอกจากนี้ การใช้ใบฝรั่งอ่อนยังช่วยกระชับเยื่อบุลำไส้ให้ดีขึ้นอีกด้วย
เพื่อ "หยุด" อาการท้องเสีย เพียงรับประทานฝรั่งอ่อน 3-5 ต้นที่ล้างสะอาดแล้ว หรือต้มใบฝรั่งดื่มวันละหลายๆ ครั้ง ควรดื่มก่อนอาหารประมาณ 15 นาที เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีที่สุด
ใบฝรั่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่า ใบฝรั่งมีสารต้านอนุมูลอิสระและใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ดังนั้น ใบฝรั่งจึงมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เช่น:
ควบคุมและคงความความดันโลหิต
จำกัดการเกิดอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของการสูญเสียความทรงจำ โรคอัลไซเมอร์...
ช่วยลดหลอดเลือดแดงแข็งตัว ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด
ใบฝรั่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์มาก
ใบฝรั่งมีประโยชน์มากสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
การใช้ใบฝรั่งมีประสิทธิภาพในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและภาวะดื้อต่ออินซูลิน ดังนั้นการใช้ใบฝรั่งจึงมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ใบฝรั่งมีฤทธิ์นี้เนื่องจากมีสารกลุ่มอะวิคูลารินและเควอซิทิน ซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งการดูดซึมกลูโคส ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถศึกษาวิธีใช้ใบฝรั่งได้ดังนี้
ล้างใบฝรั่งแล้วเช็ดให้แห้ง
แช่น้ำใบฝรั่งดื่มทุกวัน ดื่มน้ำใบฝรั่งอย่างต่อเนื่องประมาณ 2-3 เดือน ผู้ป่วยจะสังเกตเห็นอาการดีขึ้น
ใบฝรั่งช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ การใช้ใบฝรั่งช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเซลล์มะเร็ง
จากข้อมูลของ Food NDTV พบว่าใบฝรั่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งช่องปาก มีงานวิจัยหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าไลโคปีนในใบฝรั่งมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
การดื่มใบฝรั่งช่วยลดน้ำหนักได้ผลดี
ใบฝรั่งไม่เพียงแต่เป็นวิธีลดน้ำหนักแบบธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยต่อสุขภาพอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติในการยับยั้งการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลในร่างกาย สารประกอบในใบฝรั่งมีผลต่อระบบเผาผลาญ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและป้องกันการสะสมไขมันส่วนเกิน ดังนั้น การดื่มใบฝรั่งจึงเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลอย่างยิ่ง
ใบฝรั่งช่วยปรับปรุงสุขภาพช่องปาก
เพราะใบฝรั่งมีสารฝาดสมานช่วยกระชับฟันและบรรเทาอาการปวดเหงือก
วิธีใช้ก็ง่ายมาก เพียงใช้ใบฝรั่งสดที่ล้างและบดให้ละเอียด หลังจากนั้นไม่นาน อาการปวดฟันและปวดเหงือกจะค่อยๆ ดีขึ้น อาการเหงือกอักเสบและติดเชื้อจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหากใช้วิธีนี้เป็นประจำ
ใบฝรั่งช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวและเส้นผม
ผลของใบฝรั่งต่อผิวหนังและเส้นผมสามารถระบุได้ดังนี้:
การทาใบฝรั่งช่วยให้ผิวกระชับขึ้น นอกจากนี้ น้ำฝรั่งยังช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย
การสระผมด้วยน้ำฝรั่งช่วยรักษาผมร่วงได้
ใบฝรั่งสามารถนำมาตากแห้งเพื่อนำมาใช้ได้นาน
สรรพคุณอื่นๆ ของใบฝรั่ง
ช่วยสงบระบบประสาทจึงช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
รักษาอาการไอ หวัด และเพิ่มความต้านทานของร่างกายด้วยปริมาณวิตามินซีและธาตุเหล็กในใบฝรั่ง
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
สนับสนุนการรักษาโรคเก๊าต์
ใบฝรั่งมีคุณสมบัติในการป้องกันการปลดปล่อยฮีสตามีน จึงช่วยจำกัดและสนับสนุนการรักษาอาการแพ้ได้
ลดอาการปวดประจำเดือน
การใช้ใบฝรั่งมีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
แม้ว่าใบฝรั่งจะมีประโยชน์และผลดีต่อสุขภาพมากมาย แต่เมื่อใช้ใบฝรั่ง คุณต้องใส่ใจกับประเด็นต่อไปนี้ด้วย:
ใช้ใบฝรั่งในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น การใช้ใบฝรั่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรืออาการแพ้ได้
ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการใช้ใบฝรั่ง เนื่องจากสารสกัดในใบฝรั่งอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้
หากคุณมีโรคหลอดเลือดหัวใจเรื้อรัง โรคกระดูกพรุน โรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ใบฝรั่ง...
การใช้ใบฝรั่งในการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันสามารถลดผลของยาได้
หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ใบฝรั่งเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีผลข้างเคียงต่อทารกในครรภ์หรือน้ำนมแม่
ชาใบฝรั่งมีรสฝาดและขมเล็กน้อย ดังนั้นควรดื่มเพียงวันละ 1-2 ถ้วย และดื่มหลังอาหาร ไม่ควรดื่มชาใบฝรั่งตลอดทั้งวัน เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาระบบย่อยอาหาร ชาชนิดนี้สามารถดื่มได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น
วิธีต้มน้ำใบฝรั่งให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการปรุงน้ำใบฝรั่งอย่างปลอดภัยเพื่อใช้อ้างอิง:
วัตถุดิบ:
ใบฝรั่งสดหรือยอดฝรั่งอ่อน 1 กำมือ
น้ำสะอาด
น้ำผึ้ง (ไม่จำเป็น)
คำแนะนำวิธีการทำ:
ขั้นตอนที่ 1: ล้างใบฝรั่งหรือยอดฝรั่งอ่อนหนึ่งกำมือเพื่อขจัดสิ่งสกปรกบนผิวใบ
ขั้นตอนที่ 2: ต้มน้ำตามปริมาณที่ต้องการในหม้อ เมื่อน้ำเดือด ใส่ใบฝรั่งที่ล้างแล้วลงในหม้อ
ขั้นตอนที่ 3: เคี่ยวใบฝรั่งประมาณ 15 นาที
ขั้นตอนที่ 4: ปิดเตาแล้วใช้ตัวกรองเพื่อสกัดน้ำใบฝรั่งออก
ขั้นตอนที่ 5: คุณสามารถเติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาล 1-2 ช้อนชาเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้น
หมายเหตุ: เพื่อเก็บรักษาน้ำใบฝรั่งให้เทใส่ขวดแก้วแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น
นอกจากการทำน้ำใบฝรั่งสดแล้ว คุณยังสามารถตากใบฝรั่งให้แห้งเพื่อใช้ในระยะยาวได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ ควรตากใบฝรั่งในที่ร่มและหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงเท่านั้น
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)