การเติบโตของ AI ที่สร้างสรรค์ทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่ เช่น Midjourney และ Stable Diffusion สามารถจับกลุ่มลูกค้าของ Adobe ได้ เช่น มืออาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ใช้ Photoshop
บริษัทที่มีฐานอยู่ในซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ตอบสนองด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองอย่างแข็งขัน ตลอดจนบูรณาการเข้ากับกลุ่มแอปพลิเคชันที่มีอยู่ พวกเขายังรับประกันต่อลูกค้าอีกด้วยว่ารูปภาพที่สร้างขึ้นเป็นไปตามกฎหมาย
Adobe กล่าวว่าผู้ใช้ใช้เครื่องมือเพื่อสร้างรูปภาพรวมทั้งสิ้น 3 พันล้านภาพ โดยมี 1 พันล้านภาพในเดือนกันยายน 2023 เพียงเดือนเดียว |
ขณะเดียวกัน เครื่องมือใหม่ที่ Adobe ประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม เรียกว่า “Creative Fusion” ทำงานนอกเหนือจากหลักการพื้นฐานในการสร้างภาพโดยอิงจากข้อความแจ้งเตือน โดยมีฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพถ่าย 10-20 ภาพเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ส่งออก
Ely Greenfield ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสื่อดิจิทัลของ Adobe กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะให้แบรนด์ใหญ่ๆ สามารถอัปโหลดภาพผลิตภัณฑ์หรือตัวละคร จากนั้นใช้เทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างภาพหลายร้อยหรือหลายพันภาพโดยอัตโนมัติ ซึ่งตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย เช่น เครือข่ายโซเชียล เว็บไซต์ โฆษณา หรือสิ่งพิมพ์
“เพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กระบวนการทั้งหมดนี้ยังคงเป็นแบบแมนนวล ตั้งแต่การจับภาพไปจนถึงการประมวลผลภาพ” กรีนฟิลด์กล่าว “อุตสาหกรรมบางส่วนจะย้ายไปสู่การถ่ายภาพเสมือนจริง ซึ่งภาพจะถูกสร้างขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจไม่ใช่ทั้งหมด แต่จะเป็นส่วนใหญ่ ผู้ใช้จะยังคงถ่ายภาพหรืออาจทำงานสร้างสรรค์แบบดั้งเดิม แต่หลังจากนั้น พวกเขาสามารถใช้เทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์กับผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายได้”
นอกจากนี้ในวันที่ 10 ตุลาคม Adobe ได้เปิดตัวเครื่องมือกราฟิกเวกเตอร์ที่สามารถปรับขนาดได้ง่าย และมักใช้ในการออกแบบโลโก้และฉลากผลิตภัณฑ์ รวมถึงงานการตลาดอื่นๆ
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)