เกี่ยวกับเงินเดือนครูในโรงเรียนอาชีวศึกษา หนังสือเวียนที่ 07/2023/TT-BLDTBXH ของกระทรวงแรงงาน ทหารผ่านศึก และกิจการสังคม เพิ่งออกกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ มาตรฐานชื่อวิชาชีพ การแบ่งประเภทเงินเดือน มาตรฐาน เงื่อนไขการสอบหรือพิจารณาเลื่อนตำแหน่งชื่อวิชาชีพของข้าราชการพลเรือนที่เชี่ยวชาญด้าน การศึกษา อาชีวศึกษา
จัดอันดับคณาจารย์ในสถาบันอาชีวศึกษาตามรหัสและมาตรฐานชื่อวิชาชีพ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2561
วิชาที่รับสมัคร ได้แก่ คณาจารย์ในวิทยาลัย โรงเรียนมัธยมศึกษา ศูนย์การศึกษาวิชาชีพของรัฐ (เรียกว่า สถาบันการศึกษาวิชาชีพของรัฐ) และองค์กรและบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ คณาจารย์ที่เป็นครูที่สอนความรู้ด้านวัฒนธรรมระดับมัธยมศึกษาในสถาบันการศึกษาวิชาชีพของรัฐใช้ระเบียบเกี่ยวกับรหัส มาตรฐานตำแหน่งทางวิชาชีพ การโยกย้ายเงินเดือน การเลื่อนตำแหน่งทางวิชาชีพครูระดับมัธยมศึกษาที่ออกโดยกระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรม
ไม่เกี่ยวข้องนอกโรงเรียนอาชีวศึกษา
หนังสือเวียนนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม เป็นต้นไป และไม่ใช้กับข้าราชการครูที่เป็นครูกลุ่มฝึกอบรมครูในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรม ครูที่สอนในระดับอุดมศึกษา ระดับกลาง และระดับประถมศึกษา ในสถาบันฝึกอบรมภายใต้ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และกระทรวงกลาโหม
ทั้งนี้ ข้าราชการพลเรือนสามัญที่จัดอยู่ในประเภทข้าราชการพลเรือนสามัญที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาวิชาชีพตามที่กำหนดในประกาศฉบับนี้ มีเงินเดือนสูงสุดคือ 14.4 ล้านดอง และต่ำสุดคือ 3.3 ล้านดอง/เดือน
โดยเฉพาะอาจารย์อาชีวศึกษาชั้นสูง (รหัส ว.09.02.01) ให้ใช้ค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนข้าราชการพลเรือนประเภท ก3 กลุ่ม 1 (ก3.1) ตั้งแต่ค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือน 6.20 - 8.00 เทียบเท่า 11.16 - 14.4 ล้านดอง/เดือน
อาจารย์อาชีวศึกษาหลัก (รหัส : ว.09.02.02) มีค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนข้าราชการประเภท ก2 กลุ่ม 1 (ก2.1) ตั้งแต่ค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือน 4.40 - 6.78 เทียบเท่า 7.92 - 12.204 ล้านบาท/เดือน
อาจารย์อาชีวศึกษาภาคทฤษฎี (รหัส ว.09.02.03) มีค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนข้าราชการประเภท ก1 ตั้งแต่ 2.34 – 4.98 เทียบเท่า 4,212 – 8,964 ล้านบาท/เดือน
อาจารย์อาชีวศึกษา (รหัส ว.09.02.04) ให้ใช้ค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนข้าราชการประเภท ก0 ตั้งแต่ค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือน 2.10 – 4.89 เทียบเท่า 3.78 – 8.802 ล้านบาท/เดือน
ครูอาชีวศึกษาชั้นสูง (รหัส ว.09.02.05) ให้ใช้ค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนข้าราชการพลเรือนประเภท ก3 กลุ่ม 2 (ก3.2) โดยมีค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนตั้งแต่ 5.75 - 7.55 เทียบเท่า 10.35 - 13.59 ล้านดอง/เดือน
ครูอาชีวศึกษาหลัก (รหัส ว.09.02.06) ได้นำค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนข้าราชการประเภท ก2 กลุ่ม 1 (ก2.1) มาใช้ตั้งแต่ค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือน 4.40 - 6.78 เทียบเท่า 7.92 - 12.204 ล้านบาท/เดือน
ครูอาชีวศึกษาเชิงทฤษฎี (รหัส ว.09.02.07) มีค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนข้าราชการประเภท ก1 ตั้งแต่ 2.34 – 4.98 เทียบเท่า 4,212 – 8,964 ล้านบาท/เดือน
ครูอาชีวศึกษา (รหัส ว.09.02.08) มีค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนข้าราชการประเภท ก0 ตั้งแต่ค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือน 2.10 – 4.89 เทียบเท่า 3.78 – 8.802 ล้านบาท/เดือน
ครูอาชีวศึกษา (รหัส ว.09.02.09) มีค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนข้าราชการประเภท ข ตั้งแต่ 1.86 – 4.06 เทียบเท่า 3,348 – 7,308 ล้านบาท/เดือน
นอกจากนี้ หนังสือเวียนยังกำหนดด้วยว่าเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาวิชาชีพจะได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียนสอบหรือได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสู่ตำแหน่งวิชาชีพที่สูงขึ้นได้เมื่อตรงตามเกณฑ์และเงื่อนไขต่อไปนี้:
ได้รับมอบหมายจากหน่วยงาน องค์กร หรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ให้เข้าร่วมการสอบหรือพิจารณาเลื่อนตำแหน่งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาวิชาชีพ
เป็นไปตามมาตรฐานและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ ก. วรรค 1 มาตรา 32 แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 115/2020/ND-CP ลงวันที่ 25 กันยายน 2020 ของ รัฐบาล ว่าด้วยการควบคุมการสรรหา การใช้ และการจัดการข้าราชการพลเรือน
มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานและภาระหน้าที่ของประเภทวิชาชีพที่ลงทะเบียนสอบหรือเลื่อนตำแหน่ง ในกรณีที่ข้าราชการมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในข้อ 6 และข้อ 7 มาตรา 39 แห่งพระราชกฤษฎีกาเลขที่ 115/2020/ND-CP จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรฐานภาษาต่างประเทศและมาตรฐานเทคโนโลยีสารสนเทศของประเภทวิชาชีพที่ลงทะเบียนสอบหรือเลื่อนตำแหน่ง
ตามรายงานของกระทรวงแรงงาน ผู้พิการ และสวัสดิการสังคม ณ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 ทั้งประเทศมีสถาบันอาชีวศึกษา 1,888 แห่ง รวมถึงวิทยาลัย 397 แห่ง โรงเรียนมัธยมศึกษา 433 แห่ง และศูนย์อาชีวศึกษา 1,058 แห่ง
จำนวนสถานศึกษาอาชีวศึกษาที่ไม่ใช่ของรัฐมีทั้งหมด 683 แห่ง (คิดเป็นร้อยละ 36.2 ของจำนวนสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั้งหมด)
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 สถาบันฝึกอบรมอาชีวศึกษาคาดว่าจะรับผู้เข้าเรียนมากกว่า 1.05 ล้านคน (คิดเป็น 46% ของแผนปี 2566) โดยประมาณ 220,000 คนจะเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาและระดับกลาง และประมาณ 835,000 คนจะเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาและหลักสูตรฝึกอบรมอาชีวศึกษาอื่นๆ
ลิงค์ที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)