การรักษาเมนูอาหารให้สมดุลครบ 4 หมู่ การรับประทานอาหารให้เพียงพอ และการจัดลำดับความสำคัญของอาหารที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต เป็นสิ่งที่เด็กๆ ควรคำนึงถึงในช่วงเทศกาลเต๊ต
เด็ก ๆ มักได้รับสารอาหารไม่สมดุลในช่วงเทศกาลเต๊ด ส่งผลให้ได้รับสารอาหารบางชนิดมากเกินไปและขาดสารอาหารบางชนิด อาจารย์เหงียน อันห์ ดุย ตุง จากระบบคลินิกโภชนาการ Nutrihome กล่าวว่าอัตราการเจริญเติบโตของเด็กอาจช้าลงในช่วงนี้
เด็กที่น้ำหนักลดหรือเพิ่มในช่วงเทศกาลเต๊ดอาจขาดสารอาหารได้ ตัวอย่างเช่น เด็กที่กินบั๋นชุง กิ่วทู ลูกอม และน้ำอัดลมมากเกินไป จะได้รับโปรตีน ไขมัน แป้ง และน้ำตาลมากเกินไป แต่ขาดวิตามินและแร่ธาตุ ทำให้มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ภาวะทุพโภชนาการจะรุนแรงขึ้นในเด็กที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ แคระแกร็น กินอาหารไม่ระวัง และข้ามมื้ออาหาร
เด็กที่มีปัญหาโภชนาการระยะสั้นยังส่งผลและขัดขวางอัตราการเจริญเติบโตที่เหมาะสมอีกด้วย ดร. ทัง ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการสำหรับเด็ก ๆ ให้ผู้ปกครองได้ศึกษา
อาหารที่สมดุลมีสารอาหาร 4 หมู่ : มื้ออาหารเที่ยงของเด็กยังคงต้องได้รับสารอาหาร 4 หมู่อย่างสมดุล ได้แก่ แป้ง (ข้าว, โจ๊ก, ถั่ว, หัวมัน, เมล็ดพืช); โปรตีน (เนื้อสัตว์, ปลา, ไข่, อาหารทะเล, ถั่วเหลือง), ไขมัน (ไขมัน, น้ำมันพืช, เนย); วิตามิน, แร่ธาตุ (ผักใบเขียว, ผลไม้)
รักษาอาหารมื้อหลักและอาหารข้างเคียง : ในช่วงเทศกาลเต๊ด ผู้ปกครองควรพยายามรักษาอาหารมื้อหลักของลูกๆ ไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลงมากเกินไปเมื่อเทียบกับวันปกติ เด็กๆ ควรรับประทานอาหารมื้อหลักอย่างน้อยหนึ่งมื้อต่อวัน โดยเน้นอาหารรสเค็ม ซุป หรือผัดให้เพียงพอ ผู้ปกครองสามารถเปลี่ยนอาหารข้างเคียงของลูกๆ เป็นอาหารที่ลูกๆ ชื่นชอบแต่มีความหลากหลายเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน
เด็กๆ รับประทานอาหารให้เพียงพอและสมดุลสารอาหารเพื่อให้มีพัฒนาการที่สมบูรณ์ ภาพ: Freepik
ควบคุมปริมาณอาหารและปริมาณนม : ผู้ปกครองควรให้บุตรหลานรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิมหรือปรึกษานักโภชนาการ บุตรหลานควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมากเกินไปและควรดื่มนมเป็นประจำ โดยเฉลี่ยประมาณ 4-5 หน่วยต่อวัน (นม 1 หน่วยเทียบเท่ากับนม 100 มล. หรือโยเกิร์ต 100 มล. และชีส 15 กรัม)
ให้ความสำคัญกับอาหารที่ดี : อาหารที่แนะนำสำหรับเด็กในช่วงเทศกาลเต๊ต ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อวัวไม่ติดมัน ไก่ ปลา และอาหารทะเลสด เพื่อให้ได้โปรตีน ผลไม้ สมูทตี้ หรือน้ำผลไม้ (ฝรั่ง ส้ม มะเขือเทศ ลูกแพร์ แตงโม แอปเปิล) และผัก (ผักโขม กะหล่ำปลี แครอท ดอกกะหล่ำ วอเตอร์เครส) อุดมไปด้วยไฟเบอร์และวิตามิน นมและโยเกิร์ตช่วยให้เด็กย่อยอาหารได้ดี ลดอาการท้องอืด ท้องเสีย และท้องผูก
คุณหมอตุงแนะนำว่าเด็กๆ สามารถกินข้าวและโจ๊กได้ตามปกติ หรือลดปริมาณลงแล้วเปลี่ยนเป็นบั๊ญชุงหรือบั๊ญเต๊ตชิ้นเล็กๆ แทนได้ บั๊ญชุงและบั๊ญเต๊ตควรรับประทานคู่กับผัก ไม่ควรรับประทานร่วมกับอาหารประเภทแป้งอื่นๆ หากครอบครัวจะไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ควรศึกษาแหล่งอาหารในพื้นที่ล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ กินอาหารที่แตกต่างจากปกติมากเกินไป ระบบย่อยอาหารของเด็กยังไม่พัฒนาพอที่จะปรับตัวเข้ากับอาหารแปลกๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ผู้ปกครองควรจำกัดการให้ลูกๆ รับประทานขนม น้ำอัดลม แยม อาหารจานด่วน และอาหารแปรรูป เพราะอาหารเหล่านี้ให้พลังงานว่างเปล่า ขาดวิตามินและแร่ธาตุ มีใยอาหารต่ำ และมีน้ำตาลหรือเกลือสูง หลีกเลี่ยงการให้ลูกกินอาหารเก่า เพราะอาจไม่ปลอดภัยและถูกสุขอนามัย นอกจากนี้ เมล็ดแตงโม เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ก็ไม่แนะนำให้รับประทานเช่นกัน เพราะอาจทำให้เด็กสำลักได้ง่าย
เด็กๆ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารตรงเวลา ทำกิจกรรมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และรักษากิจกรรมทางกายในช่วงเทศกาลเต๊ต ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานไปพบนักโภชนาการเพื่อตรวจร่างกายและให้คำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการเพื่อการเจริญเติบโตที่เหมาะสมทั้งในช่วงเทศกาลเต๊ตและหลังเทศกาลเต๊ต
คิม ทันห์
ลิงค์ที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)