หากคุณสนใจที่จะลงทุนซื้อเมาส์สำหรับเล่นเกมที่ต้องการความไวสูง Razer Viper V3 Pro ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้ไม่ควรมองข้าม
Viper V3 Pro มีการออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมายสำหรับเกมเมอร์
การออกแบบที่กะทัดรัด
Viper V3 Pro โดดเด่นด้วยรูปทรงเมาส์แบบรวมศูนย์ พร้อมดีไซน์เรียบง่ายสะอาดตา ซึ่งเหล่าเกมเมอร์มืออาชีพหลายคนต่างชื่นชอบ เพราะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นไฟ RGB อาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วและมีน้ำหนักเกิน เมาส์มีปุ่มสองปุ่ม โดยสองปุ่มอยู่ทางด้านซ้าย และล้อเลื่อนตรงกลาง Viper V3 Pro ใช้เทคโนโลยีเมาส์ออปติคัลรุ่นที่ 3 ของ Razer จึงช่วยลดความล่าช้าและรองรับการคลิกได้สูงสุด 90 ล้านครั้ง
Viper V3 Pro มีน้ำหนักเพียง 55 กรัม จึงเป็นหนึ่งในเมาส์เกมมิ่งไร้สายที่เบาที่สุดในปัจจุบัน ขนาดของเมาส์ยังให้ความรู้สึกสบายมือด้วยรูปแบบการจับที่หลากหลาย
แม้แต่ส่วนล่างของเมาส์ก็ยังมีดีไซน์เรียบง่าย พร้อมเซ็นเซอร์ สวิตช์เปิด/ปิด/DPI และฐานขนาดใหญ่ผลิตจาก PTFE 100% ที่หุ้มปลายทั้งสองด้านของเมาส์ ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นบนพื้นผิวหลากหลายประเภท รวมถึงกระจกและไม้ ด้านบนของเมาส์มีพอร์ต USB-C
Viper V3 Pro สร้างความประทับใจด้วยเซ็นเซอร์ออปติคัล Razer Focus Pro 35k ใหม่ที่มีความไวสูงถึง 35,000 DPI และความเร็วในการติดตามสูงสุด 750 IPS
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาอีสปอร์ต Viper V3 Pro โดดเด่นด้วยเซ็นเซอร์ออปติคัล Razer Focus Pro 35k รุ่นใหม่ ที่มีความไวสูงถึง 35,000 DPI และความเร็วในการติดตามสูงสุด 750 IPS เซ็นเซอร์นี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ DPI Sensitivity Matcher ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจับคู่ความไวของเมาส์ตัวเก่าได้ หมดกังวลเรื่อง DPI ดริฟท์ และเปลี่ยนมาใช้เมาส์ตัวใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับค่า DPI ได้ทีละน้อย ทั้งสองฟีเจอร์นี้สามารถเข้าถึงได้ในซอฟต์แวร์ Razer Synapse
ฟีเจอร์ใหม่มากมาย
Razer Synapse คือซอฟต์แวร์เสริมของ Viper V3 Pro (ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ใช้ติดตั้งโดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อเมาส์) โดยให้ผู้ใช้มีตัวเลือกในการกำหนดฟังก์ชันปุ่ม ปรับ DPI และการปรับแต่งอื่นๆ ตามต้องการ
หนึ่งในตัวเลือกซอฟต์แวร์คือ DPI Sensitivity Matcher ผู้ใช้เพียงวางเมาส์ตัวเก่าและ Viper V3 Pro ไว้ข้างกัน แล้วเลื่อนไปมาบนโต๊ะเป็นชิ้นเดียว หลังจากเลื่อนเมาส์ไปตามระยะทางขั้นต่ำที่กำหนด เซ็นเซอร์ Razer จะตั้งค่า DPI ให้ใกล้เคียงกับ DPI ของเมาส์ตัวเก่าโดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาในการเปิดซอฟต์แวร์และตั้งค่า DPI เอง แม้ว่าการตั้งค่าอาจไม่ตรงกันทั้งหมดก็ตาม
ซอฟต์แวร์ Razer Synapse ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการตั้งค่าเมาส์ได้ง่ายขึ้น
Viper V3 Pro ยังมาพร้อมกับดองเกิลไร้สาย HyperPolling ที่ให้การเชื่อมต่อไร้สายความถี่ 2.4GHz พร้อมอัตราการสุ่มสัญญาณไร้สายที่สูงมาก เมื่อเชื่อมต่อผ่านสาย USB อัตราการสุ่มสัญญาณจะถูกจำกัดไว้ที่ 1,000Hz แต่เมื่อเชื่อมต่อผ่านดองเกิล HyperPolling จะสามารถไปถึง 8,000Hz ซึ่งเป็นตัวเลขที่เมาส์สำหรับเล่นเกมอื่นๆ ทำได้น้อยมาก อัตราการสุ่มสัญญาณที่สูงนี้ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าต่อวินาที ลดความหน่วงจาก 1 มิลลิวินาที (ms) ที่ความถี่ 1,000Hz เหลือเพียง 1/8 ms ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเกมแนวเอาชีวิตรอด
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มอัตราการสุ่มสัญญาณ 8,000Hz จะส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ Viper V3 Pro อย่างมาก ดังนั้น ที่ความถี่ 1,000Hz เมาส์จะมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ประมาณ 95 ชั่วโมง แต่เมื่อเพิ่มเป็น 8,000Hz อายุการใช้งานแบตเตอรี่จะลดลงเหลือ 17 ชั่วโมง ไม่ว่าตัวเลขอายุการใช้งานแบตเตอรี่จะเป็นเท่าใด การตั้งค่าอัตราการสุ่มสัญญาณให้สูงจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ไวต่อการตอบสนองมากขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสในการเล่นเกมมากขึ้น
Viper V3 Pro มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าตื่นเต้นให้กับเกมเมอร์
การประเมินทั่วไป
การรวมดองเกิลไร้สาย HyperPolling ทำให้ Viper V3 Pro เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกมเมอร์อีสปอร์ตระดับไฮเอนด์ สวิตช์เมาส์ออปติคัล เซ็นเซอร์ที่ได้รับการปรับปรุง และตัวเครื่องที่เบาและเพรียวบางกว่า ทำให้ Viper V3 Pro มีข้อดีมากมาย
ที่มา: https://thanhnien.vn/trai-nghiem-chuot-choi-game-khong-day-razer-viper-v3-pro-185240618144153743.htm
การแสดงความคิดเห็น (0)