1. มอนทรีออลเก่า
มอนทรีออลเก่ามีสไตล์ฝรั่งเศสที่เข้มข้นและบรรยากาศยุโรปที่โรแมนติก (ที่มาของภาพ: รวบรวม)
โอลด์มอนทรีออลตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ มอนทรีออลยังคงรักษาความงามอันน่าหวนรำลึกของเมืองไว้ด้วยถนนที่ปูด้วยหิน อาคารสไตล์ฝรั่งเศสเก่าแก่ และบรรยากาศโรแมนติกแบบยุโรป มอนทรีออลเป็นจุดหมายปลายทาง การท่องเที่ยว ที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ ศิลปะ และต้องการค้นหาร่องรอยเก่าแก่ในใจกลางเมืองที่ทันสมัย
เมื่อเดินเล่นไปตามถนน Rue Saint-Paul คุณจะรู้สึกเหมือนหลงทางอยู่ในศตวรรษที่ 18 ที่ซึ่งร้านกาแฟเล็กๆ หอศิลป์ และร้านขายของเก่าตั้งอยู่ท่ามกลางอาคารเก่าแก่ ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือมหาวิหารนอเทรอดาม สถาปัตยกรรมแบบโกธิกอันงดงาม เพดานสูงตระหง่านและหน้าต่างกระจกสีอันวิจิตรงดงาม เป็นสถานที่ที่ทำให้หัวใจของผู้มาเยือนหยุดเต้นตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวเข้ามา เมื่อดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า แสงสีเหลืองจากร้านอาหารริมถนนก็เริ่มส่องสว่างให้กับพื้นที่อันอบอุ่นและเปล่งประกาย ก่อเกิดเป็นความงามอันน่าอัศจรรย์ที่มีเพียงเมืองมอนทรีออลเก่าเท่านั้นที่จะมอบให้ได้
2. รอยัล เมาน์เทน
มุมมองจากภูเขารอยัล (ที่มาของภาพ: รวบรวม)
เมาท์รอยัลตั้งอยู่ใจกลางเมืองอันคึกคัก โดดเด่นในฐานะสัญลักษณ์แห่งความสงบสุขและสดชื่นแก่ผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยว สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่โดดเด่นของมอนทรีออล ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี ด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติอันงดงามและวิวเมืองแบบพาโนรามาจากระดับความสูงที่เหมาะสม
Mount Royal Park ออกแบบโดย Frederick Law Olmsted สถาปนิกผู้สร้างสรรค์ Central Park ในนิวยอร์ก นับเป็นผลงานชิ้นเอกที่ผสมผสานความมหัศจรรย์ที่มนุษย์สร้างขึ้นและสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เส้นทางเดินป่าทอดผ่านป่าเมเปิล ทะเลสาบ Beaver อันเงียบสงบ และสนามหญ้าเขียวขจี ซึ่งชาวมอนทรีออลมักมาพักผ่อน ปิกนิก หรือเล่นสกีในฤดูหนาว
จากจุดชมวิว Kondiaronk Belvedere คุณสามารถชมวิวเมืองแบบพาโนรามาอันกว้างไกลสุดสายตา ด้วยหลังคาสีแดงสด ยอดแหลมของมหาวิหารอันสง่างาม และเส้นขอบฟ้าที่ทอดยาวไปจนถึงอีกฝั่งของแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ นับเป็นช่วงเวลาอันน่ารื่นรมย์ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสงบนิ่ง ท่ามกลางความงามอันกว้างใหญ่และสง่างามของแหล่งท่องเที่ยวแห่งมอนทรีออลแห่งนี้
3. ตลาดฌอง-ทาลอน
ตลาด Jean-Talon เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขาดไม่ได้ในมอนทรีออล (ที่มาของภาพ: รวบรวม)
อาหารมอนทรีออลเปรียบเสมือนซิมโฟนีแห่งแก่นแท้ของฝรั่งเศส อัตลักษณ์ควิเบก และกลิ่นอายความทันสมัย และหากคุณต้องการสัมผัสจิตวิญญาณแห่ง อาหาร ที่นี่ ตลาด Jean-Talon คือจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวในมอนทรีออลที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน
Jean-Talon ไม่ได้เป็นเพียงตลาด แต่เป็นภาพโมเสกที่มีชีวิตชีวาของสีสันและกลิ่นอาย แผงขายของที่เต็มไปด้วยผลไม้สด ผักออร์แกนิก ชีสฝีมือช่าง และขนมปังหอมกรุ่น สร้างสรรค์ภาพอันงดงามตระการตา ในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ตลาดแห่งนี้จะกลายเป็นเทศกาลกลางแจ้ง ที่ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับสตรอว์เบอร์รีหวานฉ่ำ มะเขือเทศสุกงอม และน้ำผึ้งในโถสีทองอร่ามที่เปล่งประกายดุจดวงตะวัน
พื้นที่ตรงนี้ยังเป็นที่ที่ประเพณีและความทันสมัยมาบรรจบกัน คุณสามารถพูดคุยกับเกษตรกรชาวควิเบกพื้นเมือง หรือเพลิดเพลินกับปูทีนร้อนๆ ในแผงขายเล็กๆ ริมตลาด ทั้งหมดนี้ผสมผสานกันเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารท้องถิ่นที่ใครก็ตามที่มาเยือนมอนทรีออลแห่งนี้จะต้องประทับใจ
4. พิพิธภัณฑ์ศิลปะมอนทรีออล
พิพิธภัณฑ์ศิลปะมอนทรีออลสัมผัสจิตวิญญาณของผู้มาเยือนที่รักงานศิลปะอย่างลึกซึ้ง (ที่มาของภาพ: รวบรวม)
ท่ามกลางสีสันอันสดใสของเมือง พิพิธภัณฑ์ศิลปะมอนทรีออล (Montreal Museum of Fine Arts) ได้กลายเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของผู้มาเยือนที่รักศิลปะ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมอนทรีออล ด้วยโบราณวัตถุกว่า 43,000 ชิ้น ตั้งแต่ศิลปะคลาสสิกไปจนถึงศิลปะร่วมสมัย
เมื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่จัดแสดง คุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับคอลเล็กชันอันหลากหลาย ตั้งแต่ภาพวาดสีน้ำมันยุโรปสมัยศตวรรษที่ 17 ประติมากรรมโรมันโบราณ ไปจนถึงผลงานของปรมาจารย์ร่วมสมัยอย่างปิกัสโซ แรมบรันต์ หรือชากาล พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่อนุรักษ์อดีตเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับปัจจุบัน ที่ซึ่งศิลปินร่วมสมัยจากควิเบกและศิลปินนานาชาติมาพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านนิทรรศการชั่วคราว
สถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์ก็เป็นจุดเด่นพิเศษเช่นกัน ด้วยการผสมผสานสไตล์คลาสสิกและโมเดิร์นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ก่อเกิดเป็นภาพอันเคร่งขรึมแต่นุ่มนวล เมื่อก้าวออกจากพิพิธภัณฑ์ คุณจะไม่เพียงแต่นำภาพถ่ายในกล้องติดตัวมาด้วย แต่ยังนำอารมณ์ความรู้สึกที่ปลุกเร้าจากส่วนลึกของจิตวิญญาณมาด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่มีเพียงสถานที่ท่องเที่ยวในมอนทรีออลที่เปี่ยมล้นด้วยมนุษยธรรมเท่านั้นที่จะมอบให้ได้
5. สวนพฤกษศาสตร์มอนทรีออล
สวนพฤกษศาสตร์มอนทรีออลเป็นสถานที่ที่คุณสามารถสัมผัสจังหวะอันอ่อนโยนของธรรมชาติ (ที่มาของภาพ: รวบรวม)
ท่ามกลางความเร่งรีบและคึกคักของชีวิตสมัยใหม่ สวนพฤกษศาสตร์มอนทรีออลคือสถานที่ที่คุณสามารถผ่อนคลาย สูดกลิ่นหอมของดอกไม้ และสัมผัสจังหวะอันอ่อนโยนของธรรมชาติ ด้วยพื้นที่กว่า 75 เฮกตาร์ และพืชพรรณกว่า 22,000 สายพันธุ์ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่สีเขียวอันสดชื่น แต่ยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติในมอนทรีออลอีกด้วย
สวนญี่ปุ่นอันเงียบสงบ สวนจีนสีสันสดใส สวนกุหลาบแสนโรแมนติก หรือเรือนกระจกที่เต็มไปด้วยกล้วยไม้ ล้วนเป็นการเดินทางผ่านวัฒนธรรมและภูมิอากาศที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วง ใบเมเปิลจะย้อมสวนทั้งสวนให้เป็นสีแดง สร้างสรรค์เป็นภาพที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดสีน้ำ
สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลาง การศึกษา ทางนิเวศวิทยาและการวิจัยทางพฤกษศาสตร์ชั้นนำของแคนาดาอีกด้วย มีทั้งทัวร์พร้อมไกด์นำเที่ยว นิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟ และพื้นที่สำหรับเด็ก ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัว ท่ามกลางความเร่งรีบและคึกคักของเมือง แหล่งท่องเที่ยวในมอนทรีออลแห่งนี้เปรียบเสมือนซิมโฟนีอันไพเราะ เป็นสถานที่ที่คุณสามารถหยุดพัก หายใจ และสัมผัสถึงพลังแห่งธรรมชาติ
มอนทรีออลไม่ใช่แค่เมืองธรรมดาๆ แต่เป็นความกลมกลืนระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย ระหว่างธรรมชาติและศิลปะ ระหว่างจังหวะชีวิตที่มีชีวิตชีวาและช่วงเวลาอันเงียบสงบ แต่ละจุดหมายปลายทางที่นี่เปรียบเสมือนชิ้นส่วนเล็กๆ ของนวนิยายที่ไม่มีวันจบสิ้นที่ผู้มาเยือนทุกคนอยากจะอ่านให้จบ ดังนั้น หากคุณมีโอกาสได้มาเยือนเมืองนี้ อย่าแค่ผ่านไป แวะพัก เปิดใจ และปล่อยให้มอนทรีออลสัมผัสทุกอณูของอารมณ์ความรู้สึกของคุณ
ที่มา: https://www.vietravel.com/vn/am-thuc-kham-pha/dia-diem-du-lich-montreal-v17177.aspx
การแสดงความคิดเห็น (0)