การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่นายดูโรฟถูกจับกุมในฝรั่งเศสในข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับความล้มเหลวในการป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์ม รวมถึงการแสดงความเกลียดชัง การฟอกเงิน การค้ายาเสพติดและอาวุธ และเนื้อหาทางเพศที่ผิดกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ นายดูโรฟเคยวิพากษ์วิจารณ์ข้อกล่าวหานี้อย่างรุนแรง โดยกล่าวว่าการถือเอาซีอีโอเป็นผู้รับผิดชอบต่อพฤติกรรมของผู้ใช้โดยตรงนั้นถือเป็น "สิ่งที่ผิด" และอาจส่งผลเสียต่อนวัตกรรมทางเทคโนโลยีได้
Telegram ตกลงที่จะให้ข้อมูลผู้ใช้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกจับกุม นายดูรอฟได้เปลี่ยนจุดยืนและย้ำว่าเขาจะไม่ยอมให้ผู้ไม่หวังดีมาทำลายแพลตฟอร์มซึ่งมีผู้ใช้งานเกือบ 1 พันล้านคน เขากล่าวว่า Telegram จะเริ่มตรวจสอบและลบเนื้อหาที่มีปัญหาออกจากผลการค้นหา และสนับสนุนให้ผู้ใช้รายงานเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย
ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ Telegram ได้ปรับปรุงข้อกำหนดในการให้บริการและนโยบายความเป็นส่วนตัว อนุญาตให้บริษัทสามารถให้ข้อมูลผู้ใช้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เมื่อกฎหมายกำหนด ซึ่งทำให้ผู้ใช้จำนวนมากรู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทที่ Telegram ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการส่งข้อความที่ปลอดภัยที่สุด
แม้ว่า Telegram จะอ้างว่าการแชทส่วนตัวยังคงเข้ารหัสแบบ end-to-end และบริษัทไม่สามารถถอดรหัสเนื้อหาการสนทนาภายในได้ แต่ข่าวการให้ข้อมูลผู้ใช้แก่ รัฐบาล ก็ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแชทกลุ่มและช่องทางการสนทนาจะไม่ได้รับการปกป้องด้วยการเข้ารหัส ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อผู้ใช้
ด้วยจำนวนผู้ใช้เกือบ 1 พันล้านคนทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้ Telegram หลายคนกำลังมองหาทางเลือกอื่นเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของตน เนื่องจากความปลอดภัยของแพลตฟอร์มไม่ปลอดภัยเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Telegram ก่อให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับอนาคตของแพลตฟอร์มและความปลอดภัยของบริการส่งข้อความออนไลน์ในสภาพแวดล้อมที่มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Telegram จะสามารถรักษาความไว้วางใจของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อมที่ความเป็นส่วนตัวกำลังกลายเป็นข้อกังวลอันดับต้นๆ ได้หรือไม่
ที่มา: https://www.congluan.vn/telegram-khong-con-bao-mat-tuyet-doi-thong-tin-nguoi-dung-post313984.html
การแสดงความคิดเห็น (0)