ในกลุ่มโทรศัพท์ราคาต่ำกว่า 5 ล้านดอง Tecno Pova 7 และ Nubia Neo 3 5G กลายเป็นสองตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบประสบการณ์การเล่นเกมบนมือถือ โดยเฉพาะเกม eSports ยอดนิยม ทั้งสองรุ่นมีสเปคที่ใกล้เคียงกัน หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ความจุสูง และโปรเซสเซอร์ระดับกลาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงรายละเอียด ความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ในด้านการออกแบบและคุณสมบัติอาจสร้างช่องว่างขนาดใหญ่ในประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกมเมอร์ที่มีความต้องการสูงทั้งในด้านการทำงานและการตอบสนอง
องค์ประกอบการออกแบบและการเล่นเกม
ในด้านการออกแบบ สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมีดีไซน์ด้านหลังที่โดดเด่น พร้อมกล้องหลังที่เอียงได้และเส้นสายที่คมชัด อย่างไรก็ตาม Nubia Neo 3 เน้นกลุ่มเกมเมอร์เป็นหลัก ด้วยระบบไฟ RGB ในตัวและเอฟเฟกต์แสงไฟขณะชาร์จและเล่นเกม สีดำและสีขาวของ Nubia ก็ดูทันสมัยและเรียบง่าย แต่ยังคงสะท้อนถึงรูปลักษณ์ทั่วไปของอุปกรณ์เล่นเกม
ทั้งสองโมเดลมีดีไซน์สไตล์เกมเมอร์ เหมาะกับคนวัยรุ่น
ภาพ: การเปิดเผย
ในขณะเดียวกัน Tecno Pova 7 ให้ความรู้สึกเป็นกลางมากกว่า ดีไซน์ด้านหลังมันวาวและกลุ่มกล้อง 3 วงที่อยู่ใกล้กันทำให้ดูเรียบร้อย แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ชัดเจนเหมือนการเล่นเกม ในทางกลับกัน Pova 7 ยังมีคุณสมบัติกันน้ำ IP64 ที่ดีกว่า IP54 ของ Nubia Neo 3 เล็กน้อย ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่มีประโยชน์ในการใช้งานจริงบางสถานการณ์
ทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอขนาดใหญ่ประมาณ 6.8 นิ้ว แผง LCD และอัตราการรีเฟรช 120Hz อย่างไรก็ตาม Pova 7 มีความละเอียดสูงกว่าเล็กน้อย (1080 x 2392) ในขณะที่ Nubia Neo 3 มีความละเอียด 900 x 2030 อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์จริงพบว่าหน้าจอของ Nubia Neo 3 สว่างกว่า Tecno Pova 7 แม้จะมีความละเอียดต่ำกว่าก็ตาม
ใน วิดีโอ เดียวกัน ภาพจาก Nubia Neo 3 (ด้านล่าง) มีความสว่างสูงกว่า Tecno Pova 7 (ด้านบน)
ภาพ: การเปิดเผย
ด้านข้างของ Nubia Neo 3 โดดเด่นด้วยปุ่มเปิดปิดสีแดงและดีไซน์เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ พร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัสสองจุดที่ปลายทั้งสองด้าน ดีไซน์นี้ไม่เพียงแต่ให้รูปลักษณ์ที่โดดเด่นสำหรับเกมเมอร์เท่านั้น แต่ยังปรับให้เหมาะกับการถือในแนวนอนขณะเล่นเกม ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเล่นคอนโทรลเลอร์บนคอนโซล
ในด้านความบางนั้นโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องมีความคล้ายคลึงกัน แต่ Neo 3 โดดเด่นด้วยปุ่มสีแดง
ภาพ: การเปิดเผย
ในขณะเดียวกัน Tecno Pova 7 ยังคงดีไซน์ขอบเรียบและเรียบ โดยไม่มีจุดเด่นใดๆ นอกจากช่องใส่ซิม อย่างไรก็ตาม ดีไซน์นี้ยังคงให้ความรู้สึกมั่นคงเมื่อถือไว้ในมือ แต่ขาดองค์ประกอบที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมอย่างเหนือชั้น เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่าง Nubia
การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการเล่นเกม: Nubia Neo 3 เจาะลึกประสบการณ์ eSports
ในด้านซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ทั้งสองเครื่องได้ผสานรวมพื้นที่เล่นเกมแยกต่างหากที่เรียกว่า Game Space ไว้ด้วยกัน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพของโทรศัพท์ บล็อกการแจ้งเตือน และมุ่งเน้นไปที่การเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ อินเทอร์เฟซ Game Space บน Nubia Neo 3 มีข้อดีมากมาย เช่น การกำหนดตำแหน่งของปุ่มทริกเกอร์ 2 ปุ่ม และการแสดงพารามิเตอร์โดยละเอียด เช่น FPS, CPU, GPU, RAM และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันหรือการฝึกซ้อมที่มีความเข้มข้นสูง
อินเทอร์เฟซ Game Space บนอุปกรณ์ทั้งสองมีความโดดเด่นมากและมีรูปแบบเป็นของตัวเอง
ภาพ: ภาพหน้าจอ
เมื่อประเมินด้วยเครื่องมือ Antutu พบว่า Nubia Neo 3 ได้คะแนน 467,994 คะแนน สูงกว่า Tecno Pova 7 เล็กน้อย (ประมาณ 441,000 คะแนน) นอกจากนี้ ระหว่างการเล่นเกม Nubia Neo 3 ยังคงรักษาอุณหภูมิ CPU ไว้ได้เพียงประมาณ 40 องศาเซลเซียส และรักษาอุณหภูมิแบตเตอรี่ไว้ที่ 36-37 องศาเซลเซียส แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุมความร้อนได้ดีมาก
Nubia Neo 3 5G ทำคะแนน AnTuTu ได้เกือบ 468,000 คะแนน ดีกว่า Tecno Pova 7 ประมาณ 6% ในการทดสอบประสิทธิภาพ Antutu
ภาพ: ภาพหน้าจอ
ข้อดีที่สุดของ Nubia คืออุปกรณ์ทริกเกอร์ทางกายภาพ 2 ตัว (เซ็นเซอร์สัมผัส) ที่ติดตั้งอยู่ที่ขอบด้านขวา ช่วยให้ผู้เล่นควบคุมเกมได้เหมือนเป็นจอยเกม ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นที่ Tecno Pova 7 ไม่มีเลย ในเกม FPS อย่าง PUBG Mobile ทริกเกอร์นี้ช่วยแยกการยิงและการเล็งออกจากกันด้วยนิ้วสองนิ้ว (นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ) แทนที่จะเน้นการทำงานทั้งสองอย่างไว้ที่จุดสัมผัสเดียวตามปกติ
เมื่อเล่นเกมอย่าง PUBG Mobile หรือ Free Fire อุปกรณ์ทั้งสองรุ่นจะรักษาอัตราเฟรมเรต (FPS) ให้คงที่ที่ 45–60 เฟรมต่อวินาที อย่างไรก็ตาม ด้วยทริกเกอร์ทางกายภาพ Nubia Neo 3 จึงมอบประสบการณ์การยิงที่แม่นยำยิ่งขึ้นและการตอบสนองที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ Tecno ไม่สามารถทดแทนด้วยโซลูชันซอฟต์แวร์ใดๆ ได้
Nubia Neo 3 รองรับการใช้งาน 4 นิ้วอย่างยืดหยุ่นด้วยทริกเกอร์ทางกายภาพ โดยไม่บดบังหน้าจอเหมือนกับ Tecno Pova 7 เมื่อเล่นเกม FPS
ภาพ: การเปิดเผย
สำหรับเกมที่หนักหน่วงกว่าอย่าง Genshin Impact อุปกรณ์ทั้งสองรุ่นนี้อาจไม่เหมาะกับการตั้งค่าสูงนัก แต่ยังคงสามารถเล่นได้อย่างราบรื่นหากลดเอฟเฟกต์ลง สำหรับเกมแนววางแผนอย่าง AFK Journey หรือ Clash Royale Nubia Neo 3 ยังสามารถทำเฟรมเรตได้ถึง 90fps ที่การตั้งค่าสูงสุด
อายุการใช้งานแบตเตอรี่และความเร็วในการชาร์จ: Tecno มีข้อได้เปรียบ
หาก Nubia Neo 3 ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและประสบการณ์การเล่นเกมอย่างแท้จริง Tecno Pova 7 คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่และการชาร์จที่รวดเร็ว ด้วยความจุแบตเตอรี่สูงสุด 6,000mAh อุปกรณ์นี้จึงสามารถเล่นเกม ดูวิดีโอ หรือเล่นโซเชียลมีเดียได้ยาวนานตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ
ประสบการณ์จริงแสดงให้เห็นว่า Tecno สามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้นานกว่า 7 ชั่วโมงที่การตั้งค่ากราฟิกระดับกลาง ซึ่ง Nubia Neo 3 แทบจะตามไม่ทันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ไม่เพียงแต่หยุดที่ความจุเท่านั้น ความเร็วในการชาร์จของ Tecno ยังน่าประทับใจเมื่อรองรับการชาร์จเร็ว 70 วัตต์ ซึ่งช่วยลดระยะเวลารอระหว่างเกมลงได้อย่างมาก ในทางกลับกัน Nubia Neo 3 รองรับการชาร์จสูงสุดเพียง 33 วัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับรุ่นโทรศัพท์ยอดนิยมในปัจจุบัน
การประเมินทั่วไป
หากคุณให้ความสำคัญกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน Tecno Pova 7 ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม หากเป้าหมายคือประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่น การตอบสนองที่รวดเร็ว และการเน้นประสบการณ์ eSports เช่น การควบคุมทางกายภาพ และอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งตาม Game Space แล้ว Nubia Neo 3 5G ก็เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกมที่ต้องใช้การทำงานที่ซับซ้อน เช่น PUBG Mobile หรือ Free Fire
ในช่วงราคาเดียวกันที่ต่ำกว่า 5 ล้านดอง Nubia Neo 3 ถือเป็นตัวเลือกที่หายากที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ใกล้เคียงกับรุ่นมืออาชีพโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกหลายล้านเพื่อซื้อโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมระดับไฮเอนด์
ที่มา: https://thanhnien.vn/so-gang-tecno-pova-7-va-nubia-neo-3-dau-la-lua-chon-cho-game-thu-esports-185250813222442565.htm
การแสดงความคิดเห็น (0)