Vietnam.vn - Nền tảng quảng bá Việt Nam

สาเหตุการเสียชีวิตของชาวเวียดนามในกรุงเทพฯ: พิษไซยาไนด์

Báo Sài Gòn Giải phóngBáo Sài Gòn Giải phóng17/07/2024


รายงานข่าวจากเวียดนาม ระบุว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 ก.ค. สถาบันนิติเวชศาสตร์จุฬาฯ แถลงผลการชันสูตรพลิกศพ ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติทั้ง 6 ราย ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เกิดจากพิษไซยาไนด์ ทำให้ขาดอากาศหายใจเฉียบพลัน

รายงานระบุว่าได้รับศพรวมทั้งหมด 6 ศพ เป็นหญิง 3 ราย ชาย 3 ราย เจ้าหน้าที่ได้ระบุตัวตนและระบุสัญชาติของศพทั้ง 6 ศพแล้ว โดยเป็นชาวเวียดนาม 4 ราย และชาวอเมริกัน 2 ราย รายงานยืนยันว่าทั้ง 6 คนเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 12 ถึง 24 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกค้นพบ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ได้ทำการตรวจเลือด ปัสสาวะ และเลนส์ รวมถึงการสแกน CT เพื่อหาสัญญาณของการถูกทำร้าย

“ผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย พบว่ามีอาการขาดออกซิเจน ริมฝีปากม่วงเข้ม ผิวหน้าคล้ำ และเล็บม่วงเข้ม โดยระหว่างการชันสูตรพบไซยาไนด์ อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอผลการตรวจเลือดเพื่อยืนยันความเข้มข้นหรือปริมาณของไซยาไนด์ รวมถึงตรวจหาสารพิษอื่นๆ ด้วย โดยจะทราบผลที่แน่ชัดภายใน 1-2 วันนี้” นพ.กรเกียรติ วงศ์ไพศาลศิลป์ แพทย์นิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว

ตามที่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระบุว่า ผู้ที่กินหรือดื่มไซยาไนด์จะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วเนื่องจากหายใจไม่ออกและเกิดอาการชักเนื่องจากขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนเฉียบพลัน หลักฐานการทดลองปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าไซยาไนด์เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต

ในงานแถลงข่าวช่วงเช้าของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยยังระบุด้วยว่าพบไซยาไนด์ในถ้วยกาแฟทุกใบที่จุดเกิดเหตุ พร้อมย้ำว่าอาจมีผู้เสียชีวิต 1 รายจากทั้งหมด 6 รายที่เป็นผู้ก่อเหตุ

พล.ต.อ.นพสิน พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันได้ว่า มีเพียงผู้เข้าและออกที่เกิดเหตุทั้ง 6 ราย ตามที่กล่าวข้างต้น ที่ห้องหมายเลข 502 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เท่านั้น

ตำรวจเผย 6 คนนี้เดินทางเข้าประเทศไทยระหว่างวันที่ 4-12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้มีคู่รักชาวโฮจิมินห์ซิตี้ด้วย แต่ไม่ได้เข้าพักในโรงแรมพร้อมกัน

เหยื่อถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายขณะยังมีชีวิตอยู่ เมื่อพนักงานโรงแรมนำอาหารมาเสิร์ฟที่ห้อง 502 ในเวลา 13.57 น. เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ในระหว่างการสอบสวน พนักงานดังกล่าวระบุว่า เมื่อเข้าไปในห้อง ได้พบเพียงหญิงชาวอเมริกันคนหนึ่งที่รับอาหารและเครื่องดื่ม พนักงานโรงแรมเสนอที่จะช่วยหญิงคนดังกล่าวชงชาหรือกาแฟ แต่เธอปฏิเสธและบอกว่าเธอจะชงเอง เมื่อพนักงานโรงแรมออกจากห้องไปแล้ว เหลือผู้หญิงคนนี้อยู่ในห้องคนเดียว

ภาพจากกล้องบันทึกภาพเมื่อเวลา 14.03 น. และเวลา 14.17 น. แสดงคนอีกห้าคนลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาในห้อง หลังจากนั้นไม่มีใครออกจากห้องอีก ทั้งนี้ผู้เสียหายทั้ง 6 ราย อยู่ในห้อง 502 เวลา 14.17 น. และไม่มีใครออกไปอีกเลย

นายนพสิน กล่าวว่า คดีนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคล 6 คน ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรในประเทศไทย

จากหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ได้เกี่ยวกับนางสาวเชอรีน ชอง ซึ่งเป็นพลเมืองอเมริกัน ที่มีหนี้อยู่กับคู่รักชาวเวียดนาม ตำรวจสงสัยว่าเธอคือคนที่วางยาพิษคู่รักเหล่านั้นแล้วฆ่าตัวตาย

ตำรวจยังกล่าวอีกว่าบุคคลที่ 7 ซึ่งเชื่อว่าได้จองห้องพักกับเหยื่อคือน้องสาวของเหยื่อรายหนึ่งที่เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม อย่างไรก็ตาม บุคคลดังกล่าวได้ออกจากประเทศและเดินทางกลับเวียดนามเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว

ตามรายงานของ VNA



ที่มา: https://www.sggp.org.vn/nguyen-nhan-vu-nguoi-viet-tu-vong-o-bangkok-do-ngo-doc-chat-cyanide-cyanua-post749793.html

การแสดงความคิดเห็น (0)

Simple Empty
No data

หัวข้อเดียวกัน

หมวดหมู่เดียวกัน

ป่าตะโควฉันไป
นักบินเล่านาที 'บินเหนือทะเลธงแดง 30 เม.ย. หัวใจหวั่นไหวถึงปิตุภูมิ'
เมือง. โฮจิมินห์ 50 ปีหลังการรวมชาติ
สวรรค์และโลกกลมเกลียว สุขสันต์กับขุนเขาสายน้ำ

ผู้เขียนเดียวกัน

มรดก

รูป

ธุรกิจ

No videos available

ข่าว

ระบบการเมือง

ท้องถิ่น

ผลิตภัณฑ์