นักวิทยาศาสตร์ ศึกษาหินร้อนจัดที่ความลึกเกือบ 10 กิโลเมตร ซึ่งอาจเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนเพื่อทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้
ในขณะที่ โลก กำลังเปลี่ยนไปสู่พลังงานหมุนเวียน พลังงานความร้อนใต้พิภพกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปแล้วโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพจะใช้ประโยชน์จากความร้อนจากพื้นผิวโลก แต่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์กำลังหันมาสนใจแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ทรงพลังกว่า นั่นคือ หินร้อนยวดยิ่ง
รายงานใหม่จากทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell และ Clean Air Task Force (CATF) เน้นย้ำถึงศักยภาพของหินร้อนจัดในฐานะแหล่งพลังงานหมุนเวียนหลักที่ให้พลังงานไฟฟ้าในปริมาณมาก เชื่อถือได้ และคุ้มต้นทุน
แหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพแบบดั้งเดิมจำกัดอยู่เฉพาะในพื้นที่ที่มีการไหลของความร้อนสูงใกล้พื้นผิวโลก ซึ่งโดยปกติจะอยู่ใกล้กับขอบแผ่นเปลือกโลก อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีใหม่กำลังทำให้พลังงานความร้อนใต้พิภพเข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยการใช้ประโยชน์จากพลังงานจากหินร้อนจัด
หินร้อนยวดยิ่ง คือ หินที่อยู่ลึกลงไปในเปลือกโลก ซึ่งถูกทำให้ร้อนเกิน 374 องศาเซลเซียส การทำเหมืองหินนี้ต้องเจาะลึกลงไปในเปลือกโลก แล้วสูบน้ำเข้าไปในหินร้อนยวดยิ่ง น้ำจะถูกทำให้ร้อนและกลับคืนสู่พื้นผิวโลกในรูปของไอน้ำ ไอน้ำเหล่านี้สามารถนำไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าหรือผลิตไฮโดรเจนได้
ในปี พ.ศ. 2565 มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ได้ขุดเจาะบ่อสำรวจลึก 2 ไมล์ เพื่อศึกษาศักยภาพของแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพนี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อควบคุมพลังงานจากหินร้อนจัด จำเป็นต้องขุดเจาะลึกอย่างน้อย 6 ไมล์
เพื่อดึงพลังงานจากหินร้อนจัดมาใช้อย่างปลอดภัย ทีมงานเน้นย้ำว่าการเลือกสถานที่ตั้งที่เหมาะสมและการทำความเข้าใจสภาพใต้ดินเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพต้องอาศัยข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับอุณหภูมิ ความดัน การไหลของน้ำ และคุณสมบัติของหินเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องมีความก้าวหน้าอย่างมากในอุปกรณ์และเทคนิคการขุดเจาะเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพ
“การผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพแตกต่างจากเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ที่สามารถขยายขนาดได้ง่าย เนื่องจากต้องอาศัยสถานที่ตั้งเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงหลายประการและเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ด้วยการระบุเทคโนโลยีที่ทันสมัยและโอกาสในการวิจัยและพัฒนา เราหวังว่าจะสามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้และเร่งการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของเทคโนโลยีนี้” เซธ ซัลเทียล ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับใหม่กล่าว
ที่มา: https://doanhnghiepvn.vn/cong-nghe/nguon-nang-luong-tu-da-sieu-nong-374-do-c-duoi-long-dat/20241217100533146
การแสดงความคิดเห็น (0)