ส.ก.ป.
การละเมิดข้อมูลเมื่อใช้บริการออนไลน์และดิจิทัลไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีมาตรการมากมายที่ถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูล อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ใช้จะทำเมื่อข้อมูลของตนปรากฏในรายการข้อมูลที่รั่วไหลนั้นเป็นสิ่งที่ควรรู้
การเปลี่ยนรหัสผ่านโดยเร็วที่สุดถือเป็นวิธีหนึ่งในการปกป้องข้อมูลของคุณจากการถูกแฮ็ก |
ผู้เชี่ยวชาญของ Kaspersky ให้คำแนะนำสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ควรให้ความสำคัญหากข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล: เปลี่ยนรหัสผ่านโดยเร็วที่สุด ตรวจสอบเว็บไซต์ทั้งหมดที่ใช้รหัสผ่านเดียวกัน ใช้โปรแกรมจัดการรหัสผ่านที่เชื่อถือได้เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ระวังกลโกงฟิชชิ่งที่อาจเกิดขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญของ Kaspersky ให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ว่า โดยทั่วไปแล้ว บริการที่มีชื่อเสียงจะแจ้งเตือนผู้ใช้ทางอีเมลเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังกลโกงฟิชชิง เนื่องจากอาชญากรไซเบอร์อาจใส่ลิงก์ในอีเมลเพื่อขอให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่าน การคลิกลิงก์นี้จะนำผู้ใช้ไปยังหน้าอันตรายซึ่งผู้ใช้จะต้องกรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ข้อมูลบัญชีถูกเปิดเผย เพื่อป้องกันตนเอง ผู้ใช้ควรไปที่เว็บไซต์ของบริการโดยตรงและอัปเดตรหัสผ่านด้วยตนเอง
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญหากข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลคือผู้ใช้ต้องเลือกผู้ให้บริการอย่างมีความรับผิดชอบ หากคุณกำลังพิจารณาใช้บริการออนไลน์ เช่น VPN โปรดสละเวลาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการนั้นๆ อย่าลืมยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย ล็อคบัตรและออกบัตรใหม่หากจำเป็น
เพื่อลดความเสี่ยงของการรั่วไหลของข้อมูลในอนาคต ควรใช้ VPN เสมอ วิธีนี้จะช่วยปกปิดร่องรอยดิจิทัลของคุณโดยการระบุที่อยู่ IP จากประเทศอื่น
นอกจากนี้ การเข้ารหัสข้อมูลก่อนส่งยังช่วยป้องกันการโจมตีแบบ Man-in-the-Middle เนื่องจากการสื่อสารผ่านช่องทางที่เข้ารหัสย่อมดีกว่าการใช้ข้อความธรรมดา ผู้ใช้สามารถดูตัวอย่างได้ในนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งมักมีข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่ IP ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ เบราว์เซอร์ การตั้งค่าโซนเวลาและตำแหน่งที่ตั้ง และระบบปฏิบัติการที่ใช้สำหรับการเข้าถึง
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)