เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ในงานที่นิวเดลี รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย S. Jaishankar ยืนยันว่าแอฟริกามีจุดยืนที่สำคัญในนโยบายต่างประเทศของประเทศในเอเชียใต้แห่งนี้
รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุม CII-EXIM Bank ครั้งที่ 18 ว่าด้วยความร่วมมือในการเติบโตของอินเดีย-แอฟริกา ในกรุงนิวเดลี วันที่ 14 มิถุนายน (ที่มา: India News Network) |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ Jaishankar กล่าวที่การประชุม CII-EXIM Bank ครั้งที่ 18 เรื่องความร่วมมือเพื่อการเติบโตของอินเดีย-แอฟริกา ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวเดลี โดยเน้นย้ำว่าข้อตกลงการค้าเสรีภาคพื้นทวีปแอฟริกา (AfCFTA) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2564 จะช่วยให้บริษัทอินเดียขยายฐานธุรกิจในแอฟริกาได้
ในความเป็นจริง ด้วยการลงทุนสะสม 73.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 1996 ถึง 2021 อินเดียเป็นหนึ่งใน 5 นักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในแอฟริกา
นอกจากนี้ นายไจชังการ์ยืนยันว่า ภายใต้โครงการภาษีศุลกากรพิเศษ (DFTP) ซึ่งขยายการเข้าถึงปลอดภาษีไปยัง 98.2% ของรายการภาษีศุลกากรทั้งหมดของอินเดีย นิวเดลีได้เปิดตลาดให้กับประเทศต่างๆ ในแอฟริกา และจนถึงปัจจุบัน ประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด 33 ประเทศของทวีปก็ได้รับประโยชน์
ขณะกล่าวถึงบทบาทของนิวเดลีในฐานะประธานกลุ่ม G20 (G20) นักการทูตระดับสูงของอินเดียกล่าวว่า มีประเทศในแอฟริกา 3 ประเทศ ได้แก่ อียิปต์ มอริเชียส และไนจีเรีย เข้าร่วมการหารือ แต่แอฟริกาใต้ไม่ได้เข้าร่วม
นาย Jaishankar กล่าวถึงการประชุมสุดยอด Voices of the South ที่จัดขึ้นในเดือนมกราคม โดยเน้นย้ำว่าผ่านงานนี้ นิวเดลีได้นำเสนอผลประโยชน์หลักของแอฟริกาในการประชุม G20
นอกจากนี้ ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่างอินเดียและประเทศในแอฟริกาเริ่มมีสัญญาณเชิงบวก นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 รัฐมนตรีกลาโหมจากแอฟริกาเข้าร่วมการประชุมหารือการป้องกันประเทศอินเดีย-แอฟริกาครั้งที่ 2 ที่เมืองคานธีนครเป็นจำนวนหลายรัฐมนตรี
ในภาคส่วนสาธารณสุข ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึงเดือนมีนาคม 2566 ประเทศในเอเชียใต้ได้จัดหาวัคซีนโควิด-19 “Made in India” ให้กับประเทศในแอฟริกา 42 ประเทศ
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)