ด้วยวัสดุ สไตล์ และสีสันให้เลือกมากมาย การเลือกผ้าม่านจึงอาจเป็นเรื่องยาก นี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
พิจารณาเนื้อผ้า
วัสดุผ้าม่านส่งผลต่อความสวยงามของห้อง (ภาพ: Decorilla)
การเลือกวัสดุผ้าไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านสุนทรียศาสตร์เท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยของม่านด้วย
ผ้าเนื้อหนาอย่างกำมะหยี่และผ้าไหมยกดอก ไม่เพียงแต่ให้ความหรูหราเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อนที่ดีเยี่ยม ช่วยให้ห้องอบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นสบายในฤดูร้อน ผ้าเนื้อบางเบาอย่างผ้าชีฟองและผ้าไหมให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ช่วยให้ห้องสว่างไสวด้วยแสงธรรมชาติ
คุณสามารถเลือกผ้าที่เหมาะสมกับพื้นที่ได้ เช่น ห้องนอนมักเน้นผ้าหนาสีเข้มเพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัวและอบอุ่น ห้องนั่งเล่นเหมาะกับผ้าม่านสีอ่อนและละเอียดอ่อน
วัดอย่างระมัดระวัง
การตกแต่งม่านต้องใส่ใจเรื่องขนาด (ภาพ: Decorilla)
ก่อนตัดสินใจซื้อผ้าม่าน สิ่งสำคัญที่สุดคือการวัดขนาดของหน้าต่างอย่างละเอียด นอกจากการวัดความสูงและความกว้างแล้ว คุณยังต้องกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนของราวม่านด้วย ซึ่งจะเป็นการกำหนดความยาวของผ้าม่าน
เพื่อให้ได้ขนาดที่พอดี คุณจะต้องเผื่อผ้าเพิ่มสำหรับชายเสื้อ จีบ หรือรายละเอียดตกแต่งอื่นๆ การวัดที่แม่นยำไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดเงิน แต่ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าผ้าม่านของคุณจะพอดีและดูดีอีกด้วย
เลือกราวม่านให้เหมาะสม
ขนาดราวม่านต้องมีความกลมกลืน (ภาพ: Decorilla)
การเลือกและติดตั้งราวม่านไม่ใช่แค่การแขวนม่านให้เข้ากับความสวยงามของห้องเท่านั้น เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี ควรเลือกราวม่านที่มีขนาดใหญ่กว่ากรอบหน้าต่าง
นอกจากนี้ จำเป็นต้องพิจารณาเส้นผ่านศูนย์กลางและวัสดุของราวม่านอย่างรอบคอบ สำหรับผ้าหนาและหนัก เช่น ผ้ากำมะหยี่และผ้าลายยกดอก ควรเลือกราวม่านที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่และวัสดุที่แข็งแรงทนทานเพื่อให้รับน้ำหนักได้ดี ในทางกลับกัน สำหรับผ้าบางและเบา เช่น ผ้าชีฟองและผ้าไหม ราวม่านแบบบางและเรียบง่ายจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
เข้ากับสไตล์ของห้อง
การออกแบบม่านสร้างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับห้อง (ภาพ: Decorilla)
ไม่เพียงแต่วัสดุและสีสันเท่านั้น รูปแบบของผ้าม่านก็มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับแต่ละพื้นที่ คุณสามารถเลือกระหว่างผ้าม่านจีบแบบเป็นทางการที่ให้ความสวยงามหรูหรา หรือผ้าม่านโปร่งแบบผูกหรือห่วง เพื่อสร้างความรู้สึกสบายและทันสมัย
เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง ควรพิจารณาถึงสไตล์โดยรวมของห้อง ห้องนั่งเล่นแบบคลาสสิกจะเหมาะกับผ้าม่านจีบที่ทำจากผ้ากำมะหยี่หรือผ้าไหม ในทางกลับกัน ห้องที่มีสไตล์โมเดิร์นและดูอ่อนเยาว์ ผ้าม่านที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าลินินจะเหมาะสมกว่า
วิธีการเลือกสีผ้าม่าน
สีของม่านตกแต่งควรเข้ากับการออกแบบของห้อง (ภาพ: Decorilla)
เลือกผ้าม่านที่มีสีเข้มกว่าหรืออ่อนกว่าผนังเล็กน้อยเพื่อให้ดูกลมกลืนกัน หากต้องการความโดดเด่นสะดุดตา ให้เลือกสีเข้มจัดจ้าน ผ้าม่านที่มีสีอ่อนและเย็นมักจะให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสงบ
มักใช้โทนสีอ่อนเพื่อให้ห้องดูกว้างขวางและโปร่งสบาย ในขณะที่โทนสีเข้มสามารถสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
เลือกรูปแบบของคุณอย่างชาญฉลาด
ผ้าม่านสีพื้นเหมาะกับห้องที่มีลวดลายมากมาย (ภาพ: Decorilla)
ผ้าม่านลายต่างๆ สามารถสร้างจุดสนใจที่น่าสนใจได้ หากห้องของคุณมีเฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายและผนังสีพื้น ในทางกลับกัน หากห้องของคุณมีลวดลายอยู่แล้ว ลองพิจารณาใช้ผ้าม่านสีพื้นเพื่อสร้างฉากหลังให้กับห้อง
ขนาดของลวดลายควรได้สัดส่วนกับขนาดของห้อง ลวดลายขนาดใหญ่เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ ส่วนลวดลายขนาดเล็กเหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก เพื่อช่วยรักษาสมดุลทางสายตา
ที่มา: https://dantri.com.vn/bat-dong-san/nghe-thuat-chon-rem-cua-giup-can-nha-sang-trong-va-tinh-te-hon-20240820105634988.htm
การแสดงความคิดเห็น (0)