คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะลดลงเล็กน้อย?
ตามการคาดการณ์ของธุรกิจปิโตรเลียมบางแห่ง คาดว่าราคาน้ำมันเบนซิน 95 RON อาจลดลง 50 ดอง/ลิตร และน้ำมันเบนซิน E5 RON 92 คาดว่าจะลดลง 100 ดอง/ลิตร คาดราคาน้ำมันดิบ DO จะลดลง 400 - 450 บาท/ลิตร ในช่วงปรับวันที่ 21 พ.ย.
ราคาที่ลดลงของน้ำมันโลกยังส่งผลต่อราคาน้ำมันเบนซินในประเทศด้วย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบนซินในประเทศอ้างอิงกับราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์
ดังนั้นราคาฐานของน้ำมันเบนซินและน้ำมันสำหรับการคำนวณในช่วงปรับราคาวันที่ 21 พ.ย. ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่แนวโน้มทั่วไปยังคงลดลง
คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันที่ 21 พฤศจิกายน
โดยคาดการณ์ว่าในช่วงปรับราคาวันที่ 21 พ.ย. นี้ ราคาเบนซิน 95 RON อาจลดลง 50 ดอง/ลิตร และเบนซิน E5 RON 92 คาดการณ์ลดลง 100 ดอง/ลิตร คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลง 400 - 450 ดอง/ลิตร การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงก็ขึ้นอยู่กับการใช้กองทุนรักษาเสถียรภาพน้ำมันเชื้อเพลิงของผู้ประกอบการด้วย
สำหรับตลาดภายในประเทศ ราคาขายน้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบในวันนี้ อ้างอิงราคาจากการประชุมบริหารช่วงบ่ายวันที่ 13 พ.ย. ของกระทรวงการคลัง-อุตสาหกรรมและการค้า
โดยเฉพาะราคาน้ำมันเบนซิน E5 RON92 ลดลง 340 ดอง/ลิตร เหลือ 22,274 ดอง/ลิตร ราคาเบนซิน RON95 ลดลง 399 ดอง/ลิตร ไม่เกิน 23,530 ดอง/ลิตร
ราคาน้ำมันดีเซลลดลง 1,052 บาท/ลิตร ไม่เกิน 20,888 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันก๊าดลดลง 793 ดอง/ลิตร ไม่เกิน 21,512 ดอง/ลิตร ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง 617 บาท/กก. ไม่เกิน 15,623 บาท/กก.
ตั้งแต่ต้นปีมาราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นทั้งหมด 32 ครั้ง เป็นเพิ่ม 18 ครั้ง ลด 10 ครั้ง และไม่เปลี่ยนแปลง 4 ครั้ง
ย่นระยะเวลาบริหารจัดการราคาน้ำมันจาก 10 วัน เหลือเพียง 7 วัน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังเพิ่งออกพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 80/2023/ND-CP เพื่อแก้ไขและเพิ่มเติมมาตราต่างๆ ของพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 95/2021/ND-CP และพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 83/2014/ND-CP ว่าด้วยการค้าปิโตรเลียม (พระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 80) โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน
ตามพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 80 ระยะเวลาบริหารจัดการราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้ลดลงจาก 10 วันเหลือเพียง 7 วัน ดำเนินการบริหารราคาน้ำมันทุกวันพฤหัสบดี
ส่วนเรื่องสูตรราคาและวิธีการบริหารราคาน้ำมันเชื้อเพลิง พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ปรับระยะเวลาการทบทวนและประกาศต้นทุนการนำน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศมายังท่าเรือของเวียดนาม ต้นทุนการนำน้ำมันเชื้อเพลิงจากโรงกลั่นในประเทศมายังท่าเรือ และอัตราเบี้ยประกันในการคำนวณราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจากแหล่งผลิตในประเทศ จาก 6 เดือน เป็น 3 เดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถอัปเดตราคาและต้นทุนได้ทันท่วงทีมากขึ้น อีกทั้งยังสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการสร้างแหล่งน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อป้อนให้กับตลาดในประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ยังอนุญาตให้ผู้ค้าน้ำมันสามารถรับน้ำมันจากแหล่งได้สูงสุด 3 แหล่ง เพื่อสร้างการแข่งขันในการให้ส่วนลดน้ำมันในตลาด ขณะเดียวกันก็เพิ่มความคิดริเริ่มให้ผู้ค้าน้ำมันในการจัดหาและจัดหาน้ำมัน จากเดิมที่กำหนดให้นำเข้าจากแหล่งเดียวเท่านั้น
พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวยังได้แก้ไขและเพิ่มเติมกฎเกณฑ์เกี่ยวกับกรณีเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจปิโตรเลียมของผู้ค้า เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของอุปทานปิโตรเลียมกะทันหันโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อุปทานปิโตรเลียมภายในประเทศได้รับผลกระทบและขาดแคลน
นอกจากนี้ พ.ร.ก. 80 ยังได้กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในการบริหารและกำกับดูแลกองทุนรักษาราคาน้ำมันให้เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทุนควบคุมราคาจะยังคงอยู่ในองค์กรและบริหารจัดการโดยผู้ประกอบการหลักโดยใช้การหักเงิน การบัญชี และการติดตามแยกจากกันด้วยบัญชีที่เปิดในธนาคารพาณิชย์และต้องรับผิดชอบทางกฎหมายในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ประเด็นใหม่ของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้คือ ธนาคารต่างๆ จะถูกระงับบัญชีกองทุนเพื่อเสถียรภาพราคาของรัฐวิสาหกิจ บัญชีนี้ใช้เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งและใช้จ่ายกองทุนรักษาราคาน้ำมันตามประกาศการบริหารราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวข้างต้น ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวไว้ มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาและข้อบกพร่องที่เหลืออยู่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในทางปฏิบัติมากขึ้น
ราคาน้ำมันโลกลดลงเล็กน้อย

ราคาน้ำมันโลกที่ตกต่ำ ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันขายปลีกในเวียดนาม (ภาพ: PVN)
ราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบ วันนี้ วันที่ 19 พฤศจิกายน เวลา 07.00 น. (เวลาเวียดนาม) ทั่วโลก เป็นดังนี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงเหลือ 73.171 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือลดลง 4.55% และราคาน้ำมันเบรนท์ ลดลงเหลือ 77.650 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือลดลง 4.35% จากช่วงซื้อขายก่อนหน้า หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ราคาของน้ำมันดิบ WTI ลดลง 9.77% ส่วนราคาของน้ำมันเบรนท์ลดลง 11.76%
โดยราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ก็ซื้อขายที่ 77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเช่นกัน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2566
เหตุผลที่ราคาน้ำมันโลกลดลง เนื่องมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และอุปทานมีความมั่นคงมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ปริมาณการผลิตน้ำมันของโรงกลั่นน้ำมันของจีนลดลง 2.8% จากสถิติในเดือนก่อนหน้าในเดือนตุลาคม ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมที่ลดลง และสอดคล้องกับกิจกรรมทางอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง เนื่องจากภาคการผลิตของประเทศหดตัวลงอย่างไม่คาดคิด
นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดจาก EIA ยังระบุว่าปริมาณการจัดหาผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ของสำนักงาน การคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันจะประสบปัญหาด้านอุปทานดังที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน รายงานที่คล้ายกันจาก EIA แสดงให้เห็นว่าปริมาณน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 17.5 ล้านบาร์เรลในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
ฟาม ดุย
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)