การผลิตข้าวของเวียดนามทำให้มีอุปทานเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก
ขณะเดียวกันในประเทศไทย สัปดาห์ที่ผ่านมามีความผันผวนมากเนื่องมาจากเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดมากที่สุด ทำให้มีผลผลิตมาก ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อยังชะลอการทำธุรกรรมของพวกเขาด้วย อย่างไรก็ตามราคาส่งออกข้าวหัก 5% จากไทยยังคงอยู่ที่ 575 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามที่ผู้ค้าบางรายกล่าวไว้ ผู้นำเข้าข้าวจะกลับมาสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ เนื่องจากฤดูกาลส่งออกกำลังจะสิ้นสุดลง และหน่วยงานโลจิสติกส์แห่งชาติของอินโดนีเซีย (Bulog) มีแนวโน้มที่จะเปิดประมูลนำเข้าข้าวต่อไปในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567
ในตลาดปากีสถาน ราคาข้าวในประเทศยังคงมีเสถียรภาพ และความต้องการวัตถุดิบในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากพ่อค้าเตรียมที่จะส่งมอบคำสั่งซื้อ Bulog ปัจจุบันราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของปากีสถานสูงกว่าเวียดนามและไทย โดยอยู่ที่ 587 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 Bulog ได้ออกประกาศเปิดประมูลนำเข้าใหม่ โดยแสวงหาอุปทานในภูมิภาคเอเชียสำหรับข้าวขาวหัก 5% จำนวน 300,000 ตัน คาดว่าพ่อค้าชาวปากีสถานหลายรายจะเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ และนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาข้าวของปากีสถานมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม ราคาเสนอซื้อข้าวเวียดนามและไทยในปัจจุบันต่ำเนื่องจากเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวสูงสุด ดังนั้น ตลาดจึงเชื่อว่าปากีสถานไม่มีข้อได้เปรียบมากนักในการเสนอราคาครั้งนี้ เนื่องจากราคาข้าวของปากีสถานไม่มีการแข่งขัน
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)