นางแนนซี แฟเซอร์ ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อปกป้องระบบพรมแดนเปิดที่เปราะบางของสหภาพยุโรป
ตำรวจเยอรมันเพิ่มการลาดตระเวนตามชายแดนที่ติดกับโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก ภาพ : รอยเตอร์ส
ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ จำนวนคำร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยครั้งแรกในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 78% ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี 2566 ข้อมูลจากตำรวจแสดงให้เห็นว่าในเดือนสิงหาคม จำนวนคนที่เข้าเยอรมนีอย่างผิดกฎหมายมีจำนวน 14,701 คน เพิ่มขึ้น 66% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
“หากเราไม่สามารถปกป้องพรมแดนภายนอกของเราได้ดีขึ้น… พรมแดนที่เปิดภายในสหภาพยุโรปก็จะตกอยู่ในความเสี่ยง” แนนซี แฟเซอร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเบอร์ลิน
เธอบอกว่าจุดเน้นของมาตรการใหม่จะอยู่ที่การต่อสู้กับผู้ลักลอบขนคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อผู้อพยพหนึ่งในสี่ที่เข้ามาในเยอรมนี
“เราต้องการป้องกันการหลบเลี่ยงผู้ค้ามนุษย์ด้วยการควบคุมที่ยืดหยุ่นและเคลื่อนที่ได้ในหลายๆ สถานที่” เธอกล่าว และเสริมว่ามาตรการเหล่านี้จะเริ่มต้นร่วมกับโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก
ตำรวจสาธารณรัฐเช็กได้เพิ่มการสุ่มตรวจที่ชายแดนสโลวาเกีย รวมถึงบนทางหลวงที่มุ่งหน้าสู่เยอรมนี มาร์ติน วอนดราเซก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตำรวจสาธารณรัฐเช็ก กล่าว
ปัญหาผู้อพยพย้ายถิ่นฐานเป็นประเด็นสำคัญในเยอรมนี เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งระดับรัฐหลายครั้ง โดยจะเริ่มจากการลงคะแนนเสียงในบาวาเรียและเฮสส์ในวันที่ 8 ตุลาคม คาดว่ากลุ่มขวาจัดจะได้รับคะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัญหาผู้อพยพย้ายถิ่นฐานมีความชัดเจนมากขึ้น
ทางการเมืองเรียกร้องให้มีเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับผู้อพยพที่หลั่งไหลเข้ามา โดยระบุว่าปัญหาด้านที่พักและบริการที่ล่าช้านั้นคล้ายกับวิกฤตการณ์ในปี 2015 เมื่อเยอรมนีรับผู้ลี้ภัยมากกว่า 1 ล้านคนที่หลบหนีสงครามในตะวันออกกลาง
จุงเกียน (ตามรายงานของรอยเตอร์)
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)