
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สถานการณ์การระบาดของโรคมีความซับซ้อนมากขึ้น นอกจากโรคติดเชื้อประจำปีแล้ว ยังมีโรคระบาดใหม่ๆ ที่เป็นอันตราย ในปี พ.ศ. 2566 การขาดแคลนวัคซีนบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น วัคซีน 5-in-1 (DPT-VGB-HIB), DPT, โรคหัด, โรคโปลิโอ (OPV) ... นำไปสู่ความเสี่ยงของการระบาดของโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2567 เมื่อหน่วยงาน สาธารณสุข ของลาวไกได้รับวัคซีนจากสถาบันอนามัยและระบาดวิทยากลาง วัคซีนดังกล่าวจึงถูกแจกจ่ายไปยังท้องถิ่นต่างๆ เพื่อดำเนินโครงการสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่ขยายขอบเขตออกไป เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กๆ สามารถป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันในเขตบ่าวถังมีจุดฉีดวัคซีน 102 จุด ประกอบด้วยจุดบริการประจำที่สถานีอนามัย 14 จุด จุดบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ 87 จุด วัคซีนตับอักเสบบี 1 จุด ภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด และวัคซีนวัณโรคที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ ศูนย์การแพทย์เขตบ่าวถังได้กำหนดให้การฉีดวัคซีนเป็นหนึ่งในภารกิจหลักและตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน รวมถึงเป้าหมายให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ได้รับวัคซีนครบโดสป้องกันโรคติดเชื้อ 8 โรค (วัณโรค คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตับอักเสบบี เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ โปลิโอ และหัด) อย่างน้อย 95% ขึ้นไป

ปัจจุบัน ศูนย์การแพทย์อำเภอบ๋าวถังได้รับวัคซีนจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประจำจังหวัดแล้วกว่า 27,000 โดส กิจกรรมการฉีดวัคซีนในเขตบ๋าวถังดำเนินต่อเนื่องเป็นเวลา 12/12 เดือน โดยฉีด 2 รอบต่อเดือน รอบที่ 1 ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 7 ของทุกเดือน รอบที่ 2 ดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่สองสำหรับเด็กที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคสมองอักเสบญี่ปุ่นเข็มแรกแล้ว และสำหรับเด็กที่ไม่ได้มารับวัคซีนตามแผนและรอบก่อนหน้า ระยะเวลาในการฉีดวัคซีนรอบที่ 2 คือ 7 ถึง 14 วันหลังจากรอบที่ 1 ณ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 หน่วยแพทย์ในเขตได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมันครบโดสให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีแล้ว 207 คน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมันให้กับเด็ก 323 คน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคดีพีทีให้กับเด็ก 482 คน
เพื่อยกระดับคุณภาพการฉีดวัคซีนและสร้างความมั่นใจว่าวัคซีนมีความปลอดภัย เราได้วางแผนจัดฝึกอบรม บุคลากรทางการแพทย์ ที่เชี่ยวชาญด้านการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการฉีดวัคซีนประจำสถานีอนามัย โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบริการฉีดวัคซีนประจำศูนย์สุขภาพ นอกจากนี้ ยังได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประโยชน์ของการฉีดวัคซีนผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถพาบุตรหลานมาฉีดวัคซีนได้อย่างเพียงพอและตรงเวลา

ในพื้นที่สูงบางแห่ง การขยายการฉีดวัคซีนยังคงประสบปัญหา เนื่องจากประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการฉีดวัคซีน จึงไม่ได้ริเริ่มนำบุตรหลานมาฉีดวัคซีนด้วยตนเอง ดังนั้น เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยจึงสื่อสารโดยตรง เยี่ยมบ้านเรือน และให้คำแนะนำและเตือนความจำเกี่ยวกับตารางการฉีดวัคซีนผ่านเครือข่ายสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและเครือข่ายผู้ประสานงาน

เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยในการฉีดวัคซีน ภาคสาธารณสุขได้เพิ่มการตรวจสอบ กำกับดูแล และให้การสนับสนุนก่อน ระหว่าง และหลังการฉีดวัคซีน การกำกับดูแลการนำเข้า-ส่งออก การเก็บรักษา การขนส่ง และการใช้วัคซีนในการฉีดวัคซีน อัตราและความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนในทุกระดับ และการจัดการข้อมูลการฉีดวัคซีนในระบบข้อมูลการฉีดวัคซีนแห่งชาติ... ทุกๆ เดือน เมื่อตำบลและเมืองต่างๆ จัดการฉีดวัคซีน จะมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์สุขภาพอำเภอและเมืองมากำกับดูแลตารางการฉีดวัคซีนอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 12 เดือน

การฉีดวัคซีนเป็นมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ กลุ่มที่มีความสำคัญในการฉีดวัคซีน ได้แก่ เด็ก สตรีวัยเจริญพันธุ์ สตรีที่วางแผนจะตั้งครรภ์ในอีก 4 เดือนข้างหน้า สตรีมีครรภ์ ผู้ใหญ่ที่มีโรคเรื้อรัง และผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคติดเชื้อ รวมถึงครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคตับอักเสบบี
ภาครัฐกำลังเร่งฉีดวัคซีนให้ปลอดภัยและสะดวกสบาย ประชาชนจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนและพาบุตรหลานไปยังจุดฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้ออันตรายที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)