แสดงโดย: เล่อ ชุง | 25 กุมภาพันธ์ 2567
(มาตุภูมิ) - ต้นฝ้ายแดงที่บานสะพรั่งตามถนนบางสายในเมือง เว้ ช่วยเพิ่มความงดงามให้กับเมืองหลวงเก่าในช่วงวันฤดูใบไม้ผลิ
ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ บนถนนบางสายในเมืองเว้ ต้นฝ้ายจะบานสะพรั่ง ส่องสว่างท้องฟ้าของเมืองหลวงเก่าแห่งนี้
ดอกนุ่น หรือที่รู้จักกันในชื่อดอกฝ้าย ปลูกกันในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ดอกไม้ชนิดนี้มักถูกเชื่อมโยงกับทิวทัศน์ชนบทอันเงียบสงบ
ต้นฝ้ายในเมืองเว้ไม่ได้ปลูกมากเท่ากับจังหวัดและเมืองอื่นๆ แต่เมื่อมันออกดอก มันก็จะงดงามตระการตาเนื่องมาจากความงดงามตามธรรมชาติของเมืองนี้
ต้นนุ่นเป็นไม้ในวงศ์ไม้ มีรากหยาบและหนาม ทนต่อสภาพอากาศแปรปรวนได้ไม่ดีนัก ในทางกลับกัน หลังเทศกาลตรุษจีนประมาณเดือนมีนาคม ดอกนุ่นจะบานสะพรั่งสวยงาม สร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชม
ดอกฝ้ายมีกลีบดอกเดี่ยวและมีกลีบดอกหนาขนาดใหญ่ 5 กลีบ
เกสรตัวเมียของดอกข้าวมีลักษณะบอบบางแต่ตรง มีจุดสีแดงที่ปลายเหมือนประกายไฟที่กำลังจะลุกเป็นไฟ
บริเวณสะพานดาเวียน (เมืองเว้) มีต้นนุ่นอยู่ 4 ต้น โดยปกติจะออกดอกเดือนมีนาคม แต่ปีนี้ออกดอกเร็วกว่าปกติ
ผู้นำศูนย์สวนสาธารณะเว้กรีนกล่าวว่า ปัจจุบันมีต้นนุ่นประมาณ 60 ต้นในเว้ ซึ่งซื้อมาจากจังหวัดทางภาคเหนือ จนถึงปัจจุบัน ต้นนุ่นเจริญเติบโตและปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ดี จึงออกดอกสวยงามอยู่เสมอ ต้นนุ่นใกล้สะพานดาเวียนมีอายุมากกว่า 30 ปี
ด้วยลักษณะดอกที่สวยงามและเจริญเติบโตเร็ว ต้นนุ่นจึงเป็นที่สนใจและปลูกในพื้นที่สวนสาธารณะเพื่อสร้างภูมิทัศน์ดึงดูดผู้คนและนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนเมืองเว้
ช่อดอกฝ้ายเปรียบเสมือนคบเพลิงที่ส่องสว่างท้องฟ้าของเมืองหลวงเก่าเว้ในทุกวันนี้
การปรากฏของดอกฝ้ายยังเป็นสัญญาณว่าวันอันหนาวเย็นกำลังจะผ่านไป และถูกแทนที่ด้วยแสงแดดแห่งฤดูร้อน
ดอกฝ้ายร่วงหล่นคลุมพรมทางเดิน...
ความงดงามของดอกฝ้ายข้างโบราณสถานเมืองเว้
“ฉันคิดว่าดอกฝ้ายจะบานสะพรั่งเฉพาะทางภาคเหนือเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าเมืองเว้จะมีต้นฝ้ายสวยๆ มากมายนัก สีสันของดอกฝ้ายกลมกลืนไปกับทัศนียภาพของเมืองเว้ สร้างสรรค์เป็นภาพที่งดงามราวกับบทกวีให้ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวได้มาเยือนและถ่ายรูป” คุณตรัน เหวิน ตรัง (นักท่องเที่ยวจากนครโฮจิมินห์) กล่าว
แหล่งที่มา
การแสดงความคิดเห็น (0)