อาร์เจนตินาต้องการชัยชนะอีกเพียงนัดเดียวเพื่อคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลกปี 2026 อย่างเป็นทางการ
ทีมชาติอาร์เจนติน่าแสดงให้เห็นว่าการไม่มีกัปตันทีมอย่างเมสซี่ไม่ได้ส่งผลต่อความแข็งแกร่งของพวกเขา โค้ชสคาโลนีใช้ดาวรุ่งลงเล่นในแนวรุกของอัลบิเซเลสเต้ อย่างเช่น ติอาโก้ อัลมาด้า ตามมาด้วยจิอูเลียโน ซิเมโอเน่ และจูเลียน อัลวาเรซ ที่พัฒนาขึ้นนับตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 2022
จูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าตัวเก่งทีมชาติอาร์เจนติน่า
ภาพ : รอยเตอร์ส
ความแข็งแกร่งในแดนกลางของอาร์เจนติน่ายังคงเหมือนเดิมด้วยเอ็นโซ เฟอร์นันเดซ และแม็ก อัลลิสเตอร์ ร่วมด้วยกองหลังตัวกลางมากประสบการณ์อย่าง โอตาเมนดี้ และ คริสเตียน โรเมโร ร่วมกับผู้รักษาประตูมากประสบการณ์อย่าง เอมิเลียโน มาร์ติเนซ โครงสร้างนี้ช่วยให้อัลบิเซเลสเต้เล่นได้อย่างมั่นคงมาก แม้ว่าเมสซี่กัปตันทีมของพวกเขาจะไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ
หลังจากครึ่งแรกพวกเขายังรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ได้ โดยเจอกับทีมชาติอุรุกวัยที่มีนักเตะระดับท็อปของพรีเมียร์ลีกหลายคน อาทิ เบนตันคูร์, ดาร์วิน นูเนซ และเฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ (จากสโมสรเรอัล มาดริด) ในครึ่งหลังทัพของโค้ช สคาโลนี เริ่มสร้างสรรค์เกมรุกที่น่าจับตามองได้หลายครั้ง ก่อนที่ ทิอาโก้ อัลมาด้า จะมาทำความแตกต่างให้เกมด้วยประตูเปิดเกมอันสวยงามในนาทีที่ 68 จากการยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ
ปัจจุบัน ธีอาโก้ อัลมาด้า เล่นให้กับสโมสรลียง (ฝรั่งเศส) ซึ่งถือว่าเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์รองจากเมสซี่ นักเตะคนนี้เคยเล่นใน MLS (สหรัฐอเมริกา) ให้กับสโมสร Atlanta United โดยมักจะเผชิญหน้ากับเมสซี่รุ่นพี่ของเขา ก่อนที่จะย้ายไปโบตาโฟโกและตอนนี้มาที่ลียงเพื่อก้าวต่อไปในอาชีพการค้าแข้งของเขา
ในฟุตบอลโลกปี 2022 ทิอาโก้ อัลมาด้า เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอาร์เจนตินา โดยไม่ได้ลงเล่นแมตช์อย่างเป็นทางการใดๆ แต่ก็ยังได้รับความรุ่งโรจน์อย่างเต็มที่จากการคว้าแชมป์
ติอาโก้ อัลมาด้า ยิงประตูชัยให้อาร์เจนติน่า พร้อมทดแทนเมสซี่ในอนาคต
ภาพ : รอยเตอร์ส
ด้วยประตูที่เขาเพิ่งยิงได้ และในช่วงที่เมสซี่ไม่อยู่ ทิอาโก้ อัลมาด้าก็ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่ง เพื่อจะเข้ามาแทนที่ผู้เล่นชุดใหญ่ของเขาในอนาคต
ชัยชนะครั้งนี้ช่วยให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าคงตำแหน่งสูงสุดในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2026 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ โดยมี 28 คะแนนจากการแข่งขัน 13 นัด พวกเขาต้องการชัยชนะอีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเพื่อคว้าตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้ายอย่างเป็นทางการ
จะเป็นการสมบูรณ์แบบมากหากอัลบิเซเลสเต้ทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้เร็วกว่า 4 รอบ ด้วยการเอาชนะคู่ปรับอย่างบราซิลในนัดต่อไป เวลา 7.00 น. ของวันที่ 26 มีนาคม (เวลาเวียดนาม) ในบ้านที่บัวโนสไอเรส
บราซิล (21 คะแนน) หล่นมาอยู่อันดับที่ 3 หลังจากที่เอกวาดอร์ (22 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2) เอาชนะเวเนซุเอลา 2-1 ในวันเดียวกันคือวันที่ 22 มีนาคม อุรุกวัย ซึ่งเคยอยู่อันดับที่ 2 หล่นมาอยู่อันดับที่ 4 โดยมี 20 คะแนน หลังจากแพ้ให้กับอาร์เจนตินา ถัดไปคือปารากวัย (มี 20 แต้มเช่นกัน แต่มีผลต่างประตูที่แย่กว่า) โคลอมเบีย (19 แต้ม) และโบลิเวีย (13 แต้ม) รั้งอันดับที่ 7 พร้อมโควตาไปรอบเพลย์ออฟอินเตอร์คอนติเนนตัล
การแสดงความคิดเห็น (0)