ด้วยความปรารถนาที่จะกระจายทางเลือกของตนในเวที เศรษฐกิจ โลก ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงต้องการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ซึ่งเป็นกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ
กระทรวงการต่างประเทศ ของไทยระบุว่า ประเทศไทยได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมกลุ่ม BRICS หากได้รับอนุมัติ ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าร่วมกลุ่ม BRICS ซึ่งนำโดยรัสเซียและจีน
อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย กล่าวว่า ประเทศของเขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่ม BRICS แล้ว และจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกัน เร็ตโน มาร์ซูดี รัฐบาลอินโดนีเซียยังคงศึกษาถึงประโยชน์ของการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาและลาว ก็ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมกลุ่ม BRICS เช่นกัน
ดร. โจเซฟ เลียว คณบดีคณะสังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (สิงคโปร์) กล่าวถึงแนวโน้มนี้ว่า การเป็นสมาชิกของ BRICS ซึ่งเป็น “บ้านร่วม” จะนำมาซึ่งประโยชน์ในหลายด้าน รวมถึงการเสริมสร้างบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ และเพิ่มโอกาสในการร่วมกันสร้างระเบียบโลกใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณผลประโยชน์ของชาติในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะเดียวกัน ดร. อลัน ชอง นักวิจัยอาวุโสประจำโรงเรียนนานาชาติ เอส ราชารัตนัม ประเทศสิงคโปร์ กล่าวถึง BRICS ว่าเป็น “กลุ่มผู้นำทางเลือกในการบริหารโลก” โดยยกตัวอย่างความสนใจของมาเลเซียในการเข้าร่วม BRICS และกล่าวว่า BRICS อาจเป็นหนทางหนึ่งในการยกระดับนโยบายต่างประเทศของประเทศในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
กลุ่ม BRICS ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2549 โดยเริ่มแรกประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน แอฟริกาใต้เข้าร่วมในปี พ.ศ. 2553 อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่มเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เศรษฐกิจของสมาชิก BRICS มีมูลค่ารวมกันมากกว่า 28.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นประมาณ 28% ของเศรษฐกิจโลก
ขณะที่การแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรงขึ้น การเข้าร่วมกลุ่ม BRICS จึงเป็นความพยายามในการบรรเทาความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ หลังจากการขยายความร่วมมือในปีนี้ BRICS วางแผนที่จะเชิญประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งต่อไปของ BRICS ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ในเดือนตุลาคม ตามรายงานของบลูมเบิร์ก
ทาน ฮัง
ที่มา: https://www.sggp.org.vn/da-dang-hoa-lua-chon-post745859.html
การแสดงความคิดเห็น (0)